การแข่งขัน Airvolution 2017 ที่จัดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่แอร์เอเซีย เมืองเซปัง ประเทศมาเลเซีย เป็นที่สนใจจากผู้เข้าแข่งหลายต่อหลายประเทศ ในภูมิภาคอาเซียนและออสเตรเลีย รวมไปถึงประเทศไทย แน่นอนว่าการแข่งขันในครั้งนี้ มีตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วมด้วย ซึ่งขอบอกก่อนเลยว่า นี่เป็นครั้งแรกของพวกเขาในการแข่งขันครั้งนี้
ครั้งนี้ ทีมงานแบไต๋ได้ขอสัมภาษณ์หนึ่งในสมาชิกทีมชาติไทย ก่อนที่จะเริ่มต้นการแข่งขัน โดยไฮไลท์จากการถาม – ตอบ มีดังนี้
แบไต๋: แน่นอนว่าเป็นตัวแทนจากประเทศไทย ไม่ทราบว่าสมาชิกคนอื่นๆ ทำงานที่เดียวกันด้วยหรือไม่ ?
ไม่ได้อยู่ที่เดียวกันครับ มาจากหลายที่
แบไต๋: นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกของทุกคนหรือเปล่า กับการแข่งขันในรูปแบบนี้ ?
เป็นครั้งแรกครับ แต่ก็มีบางท่านที่เคยแข่งขันแบบ Accerelate หรือทำนองอย่างนี้มาก่อนแล้วครับ
แบไต๋: คาดหวังว่าทีมของเราจะได้ลำดับที่เท่าไหร่ ในการแข่งขันครั้งนี้ ?
เรื่องรางวัล เราก็คาดหวัง แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกของพวกเราด้วย ก็พยายามเตรียมตัวให้มากที่สุด พยายามเรียนรู้แพลตฟอร์ม เรียนรู้ว่าโจทย์ที่ให้มานั้น มันมีอะไรบ้าง และก็เตรียมไอเดียมา ก็คือเตรียมมาให้มากที่สุดก็แล้วกัน และก็พยายามใช้แพลตฟอร์มที่ให้มา ใช้ตัว API ที่เขาให้มา พยายามรีวิวว่างานเก่าๆ มันมีอะไรบ้าง และก็ทำให้มันตอบโจทย์ให้มากที่สุดครับ ถ้าเราคิดว่าเราทำได้ทั้งหมดที่เราเตรียมมาเนี่ย เราก็มีโอกาสที่จะชนะการแข่งขัน
แบไต๋: คิดว่าโจทย์ที่ได้รับมา มันยากสำหรับเรามั้ย ?
รู้สึกว่าโจทย์ที่เขาให้มา มันกว้าง และก็สิ่งที่เราต้องทำ ก็คือการตีโจทย์ เราพยายามตีโจทย์ จนเก็ตไอเดียว่าตัวผลิตภัณฑ์ที่ต้องทำออกมานั้น มันต้องเป็นแบบไหน แต่มันก็ยังไม่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ต้องมาประมวลผลอีกที
แบไต๋: ต่างคนต่างก็มีตำแหน่งงานเป็นของตัวเอง แล้วตำแหน่งงานที่ทำอยู่ตอนนี้ คือทำอะไร ?
อย่างตัวผมเอง เป็น Field Engineer ทำอยู่ในบริษัทขุดเจาะน้ำมัน (ก็ทำนองแบบในหนังเรื่อง Deep Water Horizon นั่นแหละ…) ซึ่งถามว่าเกี่ยวกับไอทีมั้ย ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไร แต่ตอนที่เรียนช่วงชั้นมัธยมปลาย ก็ชอบเขียนโปรแกรมอยู่แล้ว พอมีเวลาที่เหมาะ ก็เลยได้ทำส่วนนี้
แบไต๋: แน่นอนว่ามีทีมจากประเทศอื่นๆ ด้วย มีการแลกเปลี่ยน หรือไปสานสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ประเทศอื่นบ้างหรือยัง ?
คือช่วงที่สัมภาษณ์นี้ ก็ยังไม่ได้ไปคุยแบบครบทุกทีม แต่ก็มีไปคุยมาบ้างแล้ว นิดๆ หน่อยๆ แต่ถ้าเริ่มการแข่งขันแล้ว ก้อาจจะมีเดินไปคุยบ้าง มีแลกไอเดียกันบ้าง แต่อาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดลึกเกินไป
แบไต๋: จากโจทย์ที่ได้มา ตัวแพลตฟอร์มที่จะพัฒนาให้ได้ตามโจทย์เนี่ย คิดว่าจะช่วยในเรื่องของการเดินทาง ได้มากน้อยแค่ไหน ?
ผมเชื่อว่าจะช่วยได้มาก เพราะว่าทุกวันนี้ โลกมันเปลี่ยนไปมาก และยุคนี้เป็นยุคของ Cloud Computing แล้ว ในไอเดียที่คิดมานี้ มันมีคำว่า Machine Learning เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และมันมีเวลาแค่เพียง 18 ชั่วในการคิดและออกแบด้วย จะให้ไปโค้ดคำสั่งขึ้นมาเองก็คงไม่ไหวหรอก แต่เขามีเซอร์วิสมาให้ ก็เร็วขึ้น ช่วยได้มากขึ้น
แบไต๋: แน่นอนว่าเวลา 18 ชั่วโมงที่ให้มานี้ ดูเป็นเวลาที่สั้น แต่นี่ถือว่าเป็นเวลาที่สั้นที่สุด เท่าที่เคยเขียนโปรแกรมมาก่อนไหม ?
สำหรับผม สั้นที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ยังไม่เคยเจอถึงระดับนี้มาก่อน
แบไต๋: ดูจากเวลาและโจทย์ที่ให้มาเนี่ย ถือว่าโหดหินสำหรับพวกเราไหม ?
18 ชั่วโมง ถือว่าเร็วนะ แต่เราอาจจะไม่ได้ทำทั้งหมดนั่นแหละ เรามีทั้งคิดและวิเคราะห์ และตีโจทย์มาก่อนหน้านี้แล้ว 18 ชั่วโมงที่เขาให้มา จะเป็นเวลา Coding ซะส่วนใหญ่ คือเขียนให้มันเสร็จ และเตรียมตัวในการนำเสนอ ซึ่งสำหรับการ Coding เพื่อให้ได้ผลงานออกมา และงานนำเสนอที่สวยๆ ก็เป็นงานที่เยอะอยู่ดี
แบไต๋: แน่นอนว่าสิ่งที่จะทำนั้น เป็น Machine Learning แต่ยังต้องใช้แอปพลิเคชั่นในการพึ่งพากัน ?
คือไอเดียตอนนี้ ใช้ Machine Learning ไปพึ่งพากับ Cloud Platform ที่เขาให้เรามาใช้งาน แต่ใช้ Interface ที่เราออกแบบมาเพื่อใช้งาน
แบไต๋: ตัวที่ออกแบบในการแข่งขันครั้งนี้ ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานในระดับไหน ?
ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานที่เป็นลูกค้าได้ใช้งาน โดยเล็งไปตามโจทย์ที่เขาให้มา คือมันมีหลายโจทย์ แต่หนึ่งในโจทย์มันมีบอกว่า “จะทำอย่างไรให้ลูกค้าได้ราคาที่ดีที่สุด ได้ทัวร์ที่ถูกที่สุด และได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด” และเราก็พยายามตีโจทย์ออกมา
แบไต๋: คือต้องนำบริการหลากหลายบริการมาผนวกเข้าด้วยกัน ?
ใช่ครับ แต่เราก็ต้องดูโจทย์ ดูเครื่องมือ ดูแพลตฟอร์มที่เขาให้มา และประเมินดูว่าจะเอาไปใช้อะไรได้บ้าง และก็ทำมันออกมาให้ได้ตามแนวนี้
แบไต๋: แน่นอนว่าต่างคนต่างที่มา อยากทราบว่าใช้เวลาในเตรียมทีมกันนานไหม ?
คือเราก็เตรียมตัวกันเป็นเดือน แล้วพอได้คนมาร่วมทีม เราก็ต้องดูเวลาของเขาด้วยว่า เวลานี้ว่างมั้ย หรือช่วงนี้ไม่ว่าง แล้วเราก็นัดมาพูดคุยกัน ใครมี Reference อะไร ก็เอามาแชร์กัน ก็ถือว่านานเป็นเดือนนะ ตั้งแต่ช่วงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กว่าจะหาคนมาร่วมทีมได้
แบไต๋: อยากฝากอะไรให้กับคนที่ติดตามการแข่งขันในครั้งนี้ หรือคนที่สนใจในเรื่องแบบนี้บ้าง ?
อยากจะฝากว่า ถ้าใครที่สนใจในเรื่องแบบนี้ สนใจในการแข่งขันแบบนี้ ถ้ามีโอกาส ลองสมัครเข้าแข่งขันดู อย่างทีมที่เรามาแข่งขัน คนที่เป็น Developer จริงๆ ก็มีไม่ถึงครึ่ง อย่างตัวผมไม่ได้อยู่สาย Developer แต่ก็มาสมัคร ผมถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากในการเข้ามาแข่งขัน และเป็นเพียงทีมเดียว ที่เป็นตัวแทนประเทศไทย ตอนแรกๆ ก็ยังแอบเซอร์ไพรส์อยู่ว่า ทีมเราได้ไปแข่งขันด้วยเหรอ ก็เลยอยากจะบอกว่า…
ใครที่สนใจ ก็ลองสมัคร หรือทำอะไรก็ได้ ให้ตัวเราได้รับประสบการณ์ที่ตัวเองอยากได้ ถ้าสมัครก็มีโอกาสได้ ถ้าไม่สมัคร ก็ไม่มีโอกาส
แน่นอนว่าการแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป และในช่วงเช้าของวันที่ 19 มีนาคม จะเป็นช่วงเวลาของการนำเสนอผลงานของทุกทีม รวมถึงผลงานของตัวแทนจากประเทศไทย ทีมงานแบไต๋ไฮเทคก็ขอให้ตัวแทนจากประเทศไทยที่มาแข่งขันในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน และหอบรางวัลกลับมายังประเทศไทย ให้พวกเราได้ชื่นชมกัน