ในช่วงกันยายนของปีที่ผ่านมา DJI ได้เปิดตัวโดรนไซส์เล็กอย่าง Mavic ซึ่งมีดีตรงที่เล็กกว่า Phantom ที่เป็นพี่ใหญ่สุดในตระกูลโดรน ควบคุมได้ไกล ถ่ายได้นาน และเป็นการท้าชนกับ Karma Drone โดรนไซส์ไล่เลี่ยกันของทางโกโปร ล่าสุด DJI ได้เปิดตัวโดรนรุ่นเล็กรุ่นใหม่ ซึ่งเล็กกว่า Mavic ที่เปิดตัวไปแล้ว นั่นคือ DJI Spark
DJI Spark เป็นโดรนที่มีขนาดเล็กกว่า Mavic เดิมถึงครึ่งหนึ่ง สามารถเก็บลงกระเป๋าเสื้อคลุมได้เลย มาพร้อมกับกล้องไซส์เล็ก เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 1/2.3″ ซึ่งขนาดของเซ็นเซอร์นี้ ใหญ่กว่า iPhone 7 ซะอีก ขนาดเลนส์ 25 มิลลิเมตร รูรับแสง f/2.6 รองรับการบันทึกภาพวิดีโอในแบบ 1080p และภาพนิ่งในขนาด 12 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับมอเตอร์กิมบอลแบบสองแกน (2-axis)
สำหรับการบินเก็บภาพนั้น Spark สามารถทานต่อกระแสลมในระดับ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถบินแบบติดตามตัวบุคคล หรือวัตถุได้ สามารถสั่งให้โดรนบินกลับมาได้ เมื่อเจออุปสรรคข้างหน้า รวมถึงมีโหมดป้องกันเครื่องบิน เพื่อให้การทำการบินของเครื่องบินนั้นปลอดภัยจากวัตถุแปลกปลอมมากขึ้น
ในส่วนของการสั่งงานนั้น แน่นอนว่าโดรนรุ่นใหม่นี้ ไม่มีรีโมท การสั่งงานต้องใช้ “มือ” ของผู้ใช้งานนี่แหละ แค่เพียงหยิบออกมาจากกระเป๋า โดรนตัวนี้ก็พร้อมใช้งานทันที โดยตัวโดรนจะทำการจับภาพใบหน้าของเจ้าของ หรือผู้ที่จะสั่งการทำงานไว้ ก่อนที่จะทำการบิน แล้วตัวโดรนจะจับการสั่งงานด้วยมือจากผู้นั้นเท่านั้น
สำหรับการสั่งงานในแต่ละครั้งก็ง่ายมากๆ เช่น ถ้าคุณผลักมือออกไป โดรนจะค่อยๆ บินออกมาจากตัวคุณ หรือถ้าคุณทำนิ้วเป็นกรอบสี่เหลี่ยม ก็เป็นการสั่งงานให้โดรน ทำการถ่ายภาพนิ่งและเก็บลง MicroSD Card
แต่ถ้าไม่ถนัดในการใช้มือควบคุม ก็สามารถใช้สมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อแอปของ DJI มาควบคุมได้ รวมไปถึงสามารถใช้ DJI Goggles สั่งควบคุมมุมของการถ่าย หรือถ้าชินกับการใช้รีโมทบังคับอยู่แล้ว จะใช้รีโมทก็คงไม่ผิดอะไร (รีโมทเฉพาะรุ่น Spark ราคาประมาณห้าพันบาท…)
ข้อดีของ Spark ก็คือ ขนาดเล็ก (เล็กประมาณฝ่ามือ) เก็บลงกระเป๋าเสื้อคลุมได้ และราคาถูก ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้
แต่ข้อเสียของ Spark ก็มีอยู่บ้าง อย่างเรื่องของระยะการบิน ที่บินได้นานสุดแค่ 16 นาทีเท่านั้น ซึ่ง Mavic ทำได้ถึง 29 นาที (โดยประมาณ), ระยะทางของการบินแค่ 2 กิโลเมตร (Mavic ทำได้ถึง 7 กิโลเมตร) รวมไปถึงกล้องที่มาพร้อมกับโดรน ก็มีความละเอียดถึงระดับ Full-HD และจำนวนเฟรมเรตสูงสุดได้ที่ 30 เฟรมต่อวินาที ต่างจาก Mavic ที่รองรับได้ถึง 4K และมอเตอร์กิมบอลที่มากับโดรน ก็แค่ 2 แกน (2-axis) จึงไม่เหมาะที่จะมาถ่ายทำในเชิงของงานโปรดักชั่น แต่เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปที่อยากมีโดรนเล็กๆ ราคาเล็กๆ ติดไว้สักตัว เพื่อถ่ายภาพหรือวิดีโอมาเก็บไว้เป็นของตัวเอง
เดโมจริง เจ๋งมาก!
สำหรับราคาของ DJI Spark นั้น จำหน่ายอยู่ที่ 499 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 17,000 บาท) โดยในราคานี้ จะได้รับ ตัวโดรน, กระเป๋า, แบตเตอรี่, ใบพัดเสริม, สายชาร์จ MicroUSB พร้อมอะแอปเตอร์ หรือถ้าต้องการรีโมทควบคุมด้วยเลยพร้อมอุปกรณ์อื่นๆ เช่นกระเป๋าเป้ ก็จำหน่ายรวมเป็นชุด Combo อยู่ที่ราคา 699 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 24,000 บาท)
สามารถสั่งซื้อได้แล้วที่เว็บไซต์ของ DJI ส่วนในเมืองไทยจะมีการจำหน่ายเมื่อไหร่นั้น ต้องติดต่อสอบถามกับตัวแทนจำหน่ายในเมืองไทย ที่เป็น Authorized Dealer เท่านั้น
ที่มา: DJI