ถัดจาก watchOS, macOS และ iMac Pro รุ่นใหม่ Apple ได้เปิดตัว iOS 11 ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPhone และ iPad ต่อเลยครับ
รายการเปลี่ยนแปลง iOS 11
- Message: ออกแบบหน้าตาใหม่ ซิ้งค์ข้อความกับ iCloud ได้แล้ว รวมถึงข้อความที่ลบไปแล้วด้วย พร้อมการเข้ารหัสแบบ end-to-end encryption โดยฟีเจอร์นี้มีใน macOS High Sierra เช่นเดียวกัน
- Apple Pay: รองรับการโอนเงินให้เพื่อนผ่าน iMessage
- Siri: พัฒนาให้สามารถสร้างเสียงแบบใหม่ โดยรองรับทั้งเสียงผู้ชายและผู้หญิง, รองรับการแปลภาษาโดยยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบหรือ beta ผ่านระบบ Machine Learning
- แอปกล้อง: เพิ่มประสิทธิภาพการบีบอัดภาพและวิดีโอเพิ่มเพื่อจัดการเนื้อที่ระหว่างการถ่ายโดยไม่เสียคุณภาพ ทำให้กินพื้นที่น้อยลง นอกจากนี้ยังมี Depth API สำหรับ iPhone 7 Plus เพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพด้วย
- แอป Photos: ใช้ Machine Learning ในการค้นหาภาพในหมวด Memory ได้ดียิ่งขึ้น เช่น ในงานกีฬา หรืองานจบการศึกษา และภาพ Portrait เป็นต้น นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพของ Live Photos เช่น การถ่ายภาพต่อเนื่องหรือให้วนลูปได้
- Control Center: ดีไซน์ใหม่หมดจด เอาทุกอย่างมารวมไว้ในหน้าเดียว ขยายการทำงานในแต่ละส่วนด้วย 3D Touch
- Apple Maps: อัปเดตเพิ่ม โดยมีแผนผังละเอียดสำหรับห้างสรรพสินค้า, สนามบิน นอกจากนี้ยังมีการจำกัดความเร็วและคำแนะนำในการใช้ช่องทางบนถนนด้วย
- Car Play: เพิ่มฟีเจอร์ Do Not Disturb ซึ่งจะปรับ iPhone ทุกเครื่องเข้าสู่โหมดเงียบป้องกันการรบกวน
- App Store: หนึ่งในไฮไลท์ของ iOS 11 มาพร้อมกับการดีไซน์ใหม่หมดจด (ต้องปรับตัวกันอีกแล้ว)
- ARKit: สำหรับการพัฒนา Augmented reality ช่วยให้ iPhone สามารถตรวจจับความระนาบ, น้ำหนัก ความเบา, และการกะขนาด
อุปกรณ์ที่รองรับ iOS 11
แต่ความสามารถที่ว้าวจริงๆ ของ iOS 11 นั้นอยู่ใน iPad Pro รุ่นใหม่ ที่ทำให้ iPad กลายเป็นคอมพิวเตอร์ได้จริงๆ