iOS 11 ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน WWDC 2017 ซึ่งได้มีการปรับปรุงรูปแบบและฟีเจอร์ในหลายส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับทำงานในยุคปัจจุบันมากขึ้น ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกันระหว่าง iOS 11 และ iOS 10 จะเห็นความแตกต่าง ดังนี้
1. หน้าโฮม
แถบสัญญาแบบใหม่ที่มุมซ้ายบน, ไม่มีชื่อแอปปรากฏใน Dock, แถบแบตเตอรี่แสดงสถานะตามสี, ฟอนต์ดูหนาและมองเห็นบนพื้นหลังสีขาวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
2. Notification Center
3. Control Center
4. Control Center (2)
มีการปรับปรุ่งจากเดิมมาก สามารถปรับแต่งค่าต่างๆได้ง่ายยิ่งขึ้นตามความต้องการ
5. App Store
6. หน้า Game ใน App Store
App Store แบบใหม่ได้รับการดีไซน์ให้มีขนาดใหญ่ และแยกประเภทของแอปไว้ด้านล่าง เช่น เกม หรือแอป เป็นต้น และยังมีการอัปเดทข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแอปต่างๆที่น่าสนใจด้วย
7. Settings
มีการปรับปรุงเล็กน้อย มีชื่อ Settings ปรากฏอยู่ด้านบน เพื่อให้ทราบว่ากำลังเปิดหน้าใดอยู่ และช่อง Search ก็ได้รับการดีไซน์ใหม่
8. Settings (2)
เพิ่มเมนูใหม่ เช่น Accounts & Passwords, Emergency SOS และ Sounds & Haptics
9. ฟิลเตอร์กล้อง
10. ตั้งค่ากล้อง
มี Scan QR Codes และเลือกรูปแบบไฟล์ (Formats) ระหว่าง HEIF/HEVC และ JPEG/H.264 ได้
11. Storage
แสดงให้เห็นเนื้อที่ว่างใน iPhone ได้ชัดเจนมากขึ้น และแสดงรายละเอียดมากขึ้น
12. เพิ่งโทรล่าสุด
ตัวอักษรได้รับการปรับปรุงให้ดูง่ายมากขึ้น
13. กดหมายเลขโทรศัพท์
ปรับปรุงตัวเลขให้หนาขึ้น และพื้นหลังที่เป็นสีขาว
14. Notes
มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
15. Safari
ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
16. Wallet
เปลี่ยนรูปแบบไปเล็กน้อย
17. เครื่องคิดเลข
เปลี่ยนรูปลักษณ์ให้กดง่ายขึ้น แต่รูปแบบการทำงานยังเหมือนเดิม
18. ปฏิทิน
ตัวอักษรใหญ่ขึ้น และหนาขึ้นเพื่อให้อ่านได้ง่ายยิ่งขึ้น
19. iMessage
เมื่อปัดด้านล่างขึ้นมา จะแสดงรายการสติ๊กเกอร์ให้เลือกใช้ได้อย่างสะดวก เรียกว่าเน้นการส่งข้อมความเป็นสติ๊กเกอร์จริงๆ
ข้อมูลอ้างอิง : phonearena