วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวถึงการแข่งขันด้านการพัฒนา AI อย่างน่าสนใจว่า “ประเทศไหนที่เป็นผู้นำด้านการวิจัย AI ประเทศนั้นจะเป็นผู้นำโลกด้วย”
RT รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2017 ที่ผ่านมา ประธานธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ได้กล่าวปฐมนิเทศเแก่นักเรียนในวันเปิดภาคเรียน โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ ดังนี้
“AI (Artificial intelligence) คืออนาคตของประเทศ ไม่ใช่แค่รัสเซียเท่านั้น แต่สำหรับมวลมนุษยชาติด้วยเช่นกัน มันเป็นโอกาสครั้งใหญ่ แต่ก็มาพร้อมภัยคุกคามเกินคาดเดา ใครก็ตามที่เป็นผู้นำในระบบนี้ จะกลายเป็นผู้นำของโลก”
ถึงแม้ว่าการวิจัยและพัฒนา AI จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในหลายภาคส่วน ทั้งในด้านอุตสาหกรรมหนักไปจนถึงการวิจัยทางการแพทย์ แต่ AI ก็ถูกนำมาใช้ในการสงครามด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น การพัฒนาอาวุธไซเบอร์ และการควบคุมอุปกรณ์ขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่าง โดรน เป็นต้น
Associated Press รายงานว่า วลาดีมีร์ ปูติน ได้คาดการณ์ถึงการรบในอนาคตว่าจะต่อสู้กันด้วยโดรน และเมื่อโดรนฝ่ายหนึ่งทำลายโดรนของอีกฝ่ายหนึ่งลง ฝ่ายนั้นก็จะต้องยอมแพ้
ในปัจจุบันนี้ ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศจีนเป็นผู้นำด้านการพัฒนา AI แต่นักเคราะห์ก็เตือนว่า สหรัฐฯ กำลัังจะล้าหลัง เนื่องจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมที่จะตัดงบในการวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพื้นฐาน
ในขณะเดียวกัน ประเทศจีนได้ประกาศว่าจะเป็นผู้นำด้านการวิจัย AI ของโลก ภายในปี 2030
ล่าสุด อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ SpaceX และ Tesla และผู้นำด้านเทคโนโลยีอีก 116 คน ได้ส่งคำร้องถึงสหประชาชาติ เรียกร้องให้มีการจัดระเบียบการพัฒนาอาวุธ AI ใหม่ โดยหวั่นว่าจะเป็นชนวนนำไปสู่วิกฤติ “สงครามโลกครั้งที่ 3” ได้ในอนาคต
China, Russia, soon all countries w strong computer science. Competition for AI superiority at national level most likely cause of WW3 imo.
— Elon Musk (@elonmusk) September 4, 2017