ทุกครั้งที่ Apple ทำการออกอัปเดท iOS ใหม่ ทฤษฎีสมคบคิดที่ระบุว่า Apple พยายามวางยาให้ไอโฟนรุ่นเก่า ๆ นั้นใช้งานได้ช้าลงเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาซื้อไอโฟนรุ่นใหม่นั้นยังมีออกมาอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะในเวลานี้ที่ iOS 11 ปล่อยให้อัปเดทก็เริ่มมีฟีดแบ็กจากผู้ใช้ไอโฟนที่เจอปัญหาเครื่องช้าลงมากขึ้น ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ของ Apple เมื่อปีที่แล้ว พวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับผู้ใช้งานไอโฟนบางกลุ่มที่รวมตัวกันฟ้องบริษัท ในประเด็นข้อสงสัยที่ระบุว่ามีการปล่อยอัปเดทซอฟต์แวร์ใหม่โดยมีจุดประสงค์แอบแฝงให้ไอโฟนรุ่นเก่าทำงานได้ช้าลงมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางเว็บไซต์ iDropnews นั้นก็ออกมาแสดงบทวิเคราะห์ว่าการที่ไอโฟนรุ่นเก่าจะทำงานได้ช้าลงเมื่อมีการอัปเดท iOS ใหม่นั้นถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งสามารถสังเกตได้ทุกครั้งที่มีการทดสอบ Benchmark ตัว iOS ใหม่กับไอโฟนรุ่นเก่า และปัจจัยสำคัญที่สุดเลยก็คือ Apple นั้นออกแบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์มาเพื่อใช้กับไอโฟนเอง ฉะนั้นการที่ Apple จะออกแบบให้ iOS ใหม่นั้นทำงานได้ดีกับไอโฟนรุ่นล่าสุดมากกว่ารุ่นเก่านั้น จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ที่ Apple ต้องการจะทำให้ผู้ใช้เริ่มมองหาไอโฟนรุ่นใหม่นั่นเอง
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าการอัปเดท iOS ใหม่ทำให้ไอโฟนรุ่นเก่าหลายรุ่นสามารถใช้งานซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ ได้ แต่ขณะเดียวกัน ไอโฟน รุ่นเก่าบางรุ่นก็ต้องกลายเป็นไอโฟนล้าสมัยที่ถูกลอยแพไปตามสภาพ อย่างเช่น iPhone 5 ที่ใช้งานแอปฯ 32-bit นั้นก็จะไม่สามารถใช้งานกับ iOS 11 ที่รองรับแต่แอปฯ 64-bit ได้ ซึ่งในกรณีนี้ Apple ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่า พวกเขาจะไม่ให้การสนับสนุนการใช้ iPhone 5 อีกต่อไปแล้วนั่นเอง
นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่ทฤษฎีสมคบคิดไม่สามารถจะเอาผิดหรือเล่นงาน Apple ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็เนื่องจากว่า โดยหลักการแล้ว iOS เวอร์ชันใหม่ก็จะต้องมีการโหลดฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามามากขึ้น ซึ่งก็จะเหมาะกับการใช้งานกับไอโฟนรุ่นที่ใหม่กว่าแน่นอนอยู่แล้ว แต่ผู้ใช้เองก็มีสิทธิ์เลือกที่จะอัปเดทตามหรือไม่ก็ได้เช่นกัน ประกอบกับสินค้าของ Apple นั้นจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าเทคโนโลยีที่โดยธรรมชาติจะมีวงจรหรือวัฏจักรที่มีความเปลี่ยนแปลงผกผันมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นั่นทำให้การจะชี้นิ้วไประบุว่า Apple จงใจ ‘วางยา’ หรือ ‘ลอยแพ’ นั้นสามารถทำได้ยากหรือพูดง่าย ๆ ว่าไม่มีน้ำหนักมากพอนั่นเอง
ในมุมเจ้าของธุรกิจ การวางแผนโละหรือปลดระวางสินค้ารุ่นเก่านั้นถือเป็นเรื่องปกติที่ทำให้ธุรกิจนั้น ๆ เดินหน้าต่อไปได้อยู่แล้ว ซึ่งแนวทางการตลาดแบบนี้มีมายาวนานเป็นร้อยปีแล้ว นั่นหมายความว่าในมุมของผู้บริโภคนั้น หากจะสรุปแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นก็ต้องประเมินและตัดสินใจด้วยตัวเองในการเลือกใช้งานสินค้านั้น ๆ ครับ