ถึงแม้ว่า iPhone 6s และ iPhone 6s Plus จะเปิดตัวมาได้กว่า 2 ปีตั้งแต่ปี 2015 แล้ว แต่ทั้งคู่กลับยังเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจแม้ Apple จะเปิดตัว iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ออกมาแล้วก็ตาม!
iPhone 6s ราคาถูกกว่าเยอะ
- iPhone 8 ความจุ 64 GB ราคา $700
- iPhone 8 Plus ความจุ 64 GB ราคา $800
- iPhone X ความจุ 64 GB ราคา $1,000
- iPhone 6S ความจุ 32 GB ราคา $450, 128GB ราคา $549
- iPhone 6S Plus ความจุ 32 GB ราคา $550, 128GB ราคา $649
iPhone 6s มีสีที่ iPhone 8 และ iPhone X ไม่มี
iPhone 8 เปิดตัวมาทั้งหมดสามสี ได้แก่ Space Grey, Silver และ Gold ส่วน iPhone X มีเพียงสองสีได้แก่สี Space Grey และ Silver ส่วน iPhone 6s มีหลากสีสันให้เลือก ได้แก่ Space Grey, Silver Gold และสี Rose Gold ซึ่งสี Rose Gold นี้ก็สิ้นสุดใน iPhone 7 ครับ
หน้าตาก็ยังคล้ายเดิม
หน้าตาของ iPhone ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนตั้งแต่ iPhone 6 เป็นต้นมา ถึงแม้ว่า Apple จะเปิดตัว iPhone 7 ออกมาก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างเท่าไหร่นัก ไม่ขอเอาเครื่องมาดูคงแยกไม่ออก ยกเว้น iPhone 7 Plus หรือ iPhone 8 Plus ที่มาพร้อมกล้องคู่ เพราะฉะนั้นใครอยากเปลัี่ยนเพราะเรื่องดีไซน์ก็ผ่านไปก่อนก็ได้
ถ้าไม่นับว่าต้องการจอไร้ขอบของ iPhone X จุดนี้ iPhone 6 ก็แพ้ไปครับ
ฝาหลังโลหะ แตกยากกว่าเยอะ!
ฝาหลังของ iPhone 6s เป็นโลหะแตกต่างกับ iPhone 8 และ iPhone X ที่ด้านหลังเป็นกระจกเพื่อรองรับการชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน Qi แต่เพราะเป็นกระจกนี้เอง ถ้าตกไปก็มีใจหายแน่นอนเพราะแตกง่ายกว่าเยอะ
iPhone 6s ยังใช้งานได้ลื่นไหลอยู่เลย
ถึงแม้สเปกของ iPhone 6s จะล้าหลังไปแล้วสองปี แต่ด้วยตัวเครื่องนั้นใช้ชิปประมวลผล Apple A9 พร้อมแรม 2GB ถึงแม้จะอัปเดต iOS 11 ก็ยังใช้งานได้ลื่นไหล ถึงแม้ว่าจะช้ากว่า iPhone 8 บ้างตามเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นครับ
กล้องหลังก็ยังแจ่มอยู่นะ
Apple พัฒนากล้องของ iPhone อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลำหน้ากว่าคู่แข่งเสมอ แต่ถึงอย่างนั้นก็พูดได้เลยว่ากล้องของ iPhone 6s ก็ยังเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ถึงแม้ว่าจะเก่าแล้วก็ตาม
iPhone 6s มีช่องเสียบหูฟัง!
สำหรับใครที่คิดว่าช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม ยังสำคัญ โดยเฉพาะคนที่มีหูฟังหลายๆ ตัวและเป็น 3.5 มม ทั้งหมด ทำให้การนำไปใช้บน iPhone 8 หรือ iPhone X นั้นเป็นเรื่องยุ่งยากก็ขอแนะนำว่า iPhone 6s ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยครับ (เป็นรุ่นสุดท้ายแล้วนะที่มี)
หน้าจอก็ไม่ได้ขี้เหร่นะ
หน้าจอของ iPhone 6s มีความละเอียดเท่ากับหน้าจอของ iPhone 8 รวมถึงเรื่องความคมและความลเอียดด้วย แต่จะแตกต่างที่ iPhone 8 และ iPhone X มีหน้าจอ True Tone ซึ่งสามารถปรับแสงได้ตามสภาพแวดล้อม หากคุณเป็นคนที่ใช้งานทั่วๆ ไป เช่น อ่านเว็บ เล่นเกม ดูวิดีโอ หน้าจอของ iPhone 6s ก็ถือว่ายังพอเพียงครับ
แต่จุดนี้ iPhone X เหนือกว่าทั้งในเรื่องของขนาดจอและความละเอียดที่สูงกว่าครับ
ใช้ iOS เดียวกับ iPhone 8 และ iPhone X
iPhone 6s เปิดตัวมาพร้อม iOS 9 ปัจจุบันยังสามารถอัปเดต iOS 11 ได้เหมือน iPhone 8 และ iPhone X ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ฟีเจอร์ที่เหมือนกันทุกอย่าง แต่ประสบการณ์การใช้งานก็ถือว่าใกล้เคียงมากเลยครับ
แล้ว Augment Reality ล่ะ?
Apple เปิดตัว iPhone 8 และ iPhone X โปรโมทเรื่อง AR มากขึ้นกว่าเดิม แต่ถึงอย่างนั้น AR ในปัจจุบันยังอยู่ในช่วงพัฒนาให้ไปไกลมากกว่าเดิม ซึ่ง Apple กล่าวไว้ว่า “ความเป็นไปได้ไม่จำกัด” ดังนั้น AR คงจะยังต้องอาศัยเวลาในการพัฒนาอีกสักพัก แต่ iPhone 6s ก็เป็นรุ่นล่างสุดที่ใช้ ARkit ใน iOS 11 ได้ ถ้าเป็น iPhone 6 ใช้ไม่ได้แล้วนะ
สุดท้าย จ่ายเงินเพิ่มแล้วคุ้มหรือไม่?
หากต้องการซื้อ iPhone 8 จะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก $250 หรือหากอยากได้ iPhone X จะต้องจ่ายเงินเพิ่ขึ้นถึง $550 แล้วจะได้อะไรใหม่ๆ มาบ้าง มาดูกัน
- ประสิทธิภาพการประมวลผลที่เร็วขึ้น
- กล้องที่ดีขึ้น
- หน้าจอที่ดีกว่าเดิมเล็กน้อย
- ฟีเจอร์เจ๋งๆ แต่อาจจะไม่ได้สำคัญ เช่น Portrait mode, การชาร์จไร้สาย, Fast Charge
- รองรับ AR
- กันน้ำได้
หากทั้งหมดนี้คุณจำเป็นต้องมีก็คุ้มค่าที่จะเปลี่ยน แต่ถ้าเกิดไม่จำเป็น iPhone 6s ก็ยังคุ้มค่าที่จะใช้งานครับ