การวิจัยล่าสุดพบว่า โฆษณาที่ปรากฏบน Facebook จะแตกต่างออกไปโดยอ้างอิงจากคุณลักษณะทางจิตวิทยาของผู้ใช้แต่ละคน ซึ่งทำให้มีโอกาสที่ผู้ใช้จะกดดูโฆษณามากขึ้น 40% หรือซื้อสินค้ามากขึ้น 50%
การกด Like อาจร้ายแรงกว่าที่คิด
การประเมินทางจิตวิทยาดังกล่าวนั้น สร้างขึ้นการรูปแบบการกด Like ของผู้ใช้ Facebook แต่ละคน ซึ่ง Sandra Matz ศาสตราจารย์ของโรงเรียนธุรกิจ Columbia Business School (CBS) ได้กล่าวด้วยความวิตกว่า
“วิธีดังกล่าวนี้ สามารถส่งผลทางจิตใจในการตัดสินใจต่อสิ่งที่ตนสนใจ ตั้งแต่การซื้อสินค้าด้วยเงินจำนวนไม่มาก ไปจนถึงการไม่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเลยก็ได้”
Sandra Matz และทีมงาน ได้ใช้แคมเปญการโฆษณาของ Facebook ผ่านกลุ่มผู้ใช้จำนวน 3.5 ล้านยูสเซอร์ ซึ่งส่วนหใหญ่เป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 18 – 40 ปี ในประเทศอังกฤษ จากหลากหลายบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกไว้ พบว่า แม้แต่เรื่องที่สะกิดใจเพียงเล็กน้อย ก็ส่งผลถึงโอกาสในการที่จะคลิกดูโฆษณาและเลือกซื้อสินค้าได้
เธอกล่าวว่า การกำหนดเป้าหมายการโฆษณาด้วยวิธีเชิงจิตวิทยานั้น ก็มีข้อดีด้วยเช่นกัน โดยหลายบริษัทสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการได้มากขึ้น เช่น กลุ่มผู้ให้การดูแลด้านสุขภาพ เป็นต้น
ไม่ใช่แค่ Facebook เท่านั้น ที่ทำได้
Sandra Matz ได้กล่าวว่า นอกจากการกด Like ใน Facebook แล้วนั้น ยังมีข้อมูลดิจิทัลอื่นๆที่สามารถนำมาวิเคราะห์คุณลักษณะทางจิตวิทยาของผู้ใช้ได้ เช่น ประวัติการค้นหาข้อมูล, ประวัติการโอนเงินผ่านบัตรเครดิต หรือข้อมูลในสมาร์ทโฟน เป็นต้น ซึ่งล่วนแต่สามารถนำมาใช้ในการโฆษณาเพื่อโน้มน้าวจิตใจได้
ข้อมูลอ้างอิง : businessinsider