รองประธานกรรมการบริหาร Terry Myerson ของ Microsoft เผยว่า ช่องโหว่ CPU ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพเครื่องนั้นยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน ซึ่งตอนนี้บริษัทกำลังทำเครื่องมือทดสอบให้ได้มาตรฐาน และเมื่อทำเสร็จแล้วจะเผยแพร่อย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม การอัปเดตแพทช์เพื่อแก้ปัญหานั้นก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องอย่างแน่นอน ทั้งนี้แต่ละเครื่องที่ใช้ CPU ต่างกันก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพที่แตกต่างกันไปด้วย ดังนี้
- อุปกรณ์ Windows 10 ที่ใช้งาน CPU Skylake, Kabylake และรุ่นใหม่กว่า มีประสิทธิภาพที่ช้าลงในส่วนในตัวเลขหลักเดียว แต่ในแง่ของการใช้งานจริงนั้นไม่ได้ส่งผลอย่างชัดเจน เนื่องจากประสิทธิภาพที่ลดลงนั้นอยู่ในระดับมิลลิวินาที
- อุปกรณ์ Windows 10 ที่ใช้งาน CPU Haswell และรุ่นเก่ากว่า ผล benchmark พบว่าประสิทธิภาพลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งผู้ใช้งานอาจจะรู้สึกได้
- อุปกรณ์ Windows 8 และ 7 ที่ใช้งาน CPU Haswell หรือเก่ากว่า ผู้ใช้งานสามารถรู้สึกถึงประสิทธิภาพที่ลดลงได้อย่างชัดเจน
Myerson กล่าวว่า ยิ่งรุ่นของ Windows เก่ามากเท่าไหร่ยิ่งมีผลต่อประสิทธิภาพมากเท่านั้น เนื่องจาก Windows 7 และ Windows 8 จะกระทบกับประสิทธิภาพมากกว่าเพราะยังมีโครงสร้างภายในหลายส่วนที่เป็นแบบเก่าอยู่นั่นเอง