นักวิจัยจาก Canalys และ IDC ได้ประมาณการณ์ว่า Apple สามาถขาย Apple Watch ได้ประมาณ 8 ล้านเรือน เมื่อไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่านาฬิกา Swiss ทั้งหมดรวมกันเสียอีก ซึ่งมีแบรนด์ดังๆอย่าง Rolex, Omega และ Swatch รวมอยู่ด้วย
นับว่าเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดมาก เมื่อพิจารณาจากที่ Apple เพิ่งทำนาฬิกามาแค่ 4 ปี เท่านั้น
ไม่ใช่ก้าวที่ “พลาด”
ถึงแม้ Apple จะมิได้เปิดเผยยอดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่มันก็ทำให้ Apple Watch กลายเป็นผลิตภัณฑ์อีกประเภทหนึ่งของ Apple นอกเหนือจากสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ที่มีการเติบโตในตลาดสูงมาก จากเมื่อปี 2016 ที่มีการเติบโตน้อยมากๆ
ทิม คุก กล่าวว่า ไตรมาสที่ผ่านมา Apple Watch มีการเติบโตด้านรายได้มากกว่า 50% และยอดจำหน่ายในทุกภูมิภาคก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ซึ่งถือได้ว่าเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของ Apple Watch เลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี การเปรียบเทียบยอดจำหน่ายนาฬิกา Swiss กับการขยายตัวของ Apple Watch นั้น อาจยังไม่ชัดเจนมากนัก เนื่องจากนาฬิกา Swiss มีตามแตกต่างกันมา โดยบางแบรนด์อย่าง Rolex นั้น เน้นที่ความหรูหรา และมีราคาหลายหมื่นเหรียญ หรือแบรนด์อย่าง Swatch ที่เน้นตลาดใหญ่โดยมีราคาใกล้เคียงกับ Apple Watch อยู่ที่ประมาณ 180 เหรียญ
ส่วนสมาร์ทว็อท์จากแบรนด์อื่นอย่าง Samsung และแบรนด์ต่างๆที่ Google มีส่วนร่วมด้วย ก็มีการเติบโตในลักษณะเดียวกัน แต่ยอดจำหน่ายยังเทียบกับ Apple Watch ไม่ได้เลย
ไม่หยุดแค่สมาร์ทว็อทช์
เทคโนโลยีต่อไปที่ Apple ให้ความสนใจมากๆ ก็คือ แว่นตาอัจฉริยะ (Smartglasses) และโปรเจ็คต์เส้นใยผ้าอัจฉริยะ (Smart Fabric Project) ซึ่งจากรายการการจดสิทธิบัตรต่างๆนั้นระบุว่า Apple กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้อยู่จริงๆ
ข้อมูลอ้างอิง : businessinsider