รอยบากของ iPhone X เป็นพื้นที่สำหรับกล้องเซลฟี่และเทคโนโลยี Face ID โดย Apple เลือกที่จะให้มีรอยบากเกิดขึ้น เพราะต้องการให้หน้าจอแสดงผลมีพื้นที่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้หลายคนจะคิดว่า รอยบาก เป็นจุดอื่นหนึ่งของ iPhone แต่มันกลับเป็นกลยุทธหนึ่งที่มีประสิทธิภาพของ Apple
การเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่มีรอยบากเครื่องแรกของโลก ทำให้ Apple กลายเป็นผู้นำเทรนด์ตลาดสมาร์ทโฟนอีกครั้ง และเป็นการบีบบังคับให้แบรนด์อื่นๆ ตัดสินใจว่า จะออกแบบสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ตามเทรนด์รอยบากหรือไม่ ซึ่งหากแบรนด์ใดตัดสินใจออกแบบสมาร์ทโฟนที่มีรอยบากตาม Apple ก็จำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณ และเวลาในการผลิตเพิ่มมากขึ้น
จากงาน Mobile World Congress ในปีนี้ ทำให้เราเห็นถึงอิทธิพลของการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Apple ต่อผู้ผลิตรายอื่นๆ
เทรนด์รอยบากทำให้หลายบริษัทที่ผลิตสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android ต้องรีบแข่งขันกันออกแบบสมาร์ทโฟนแนวใหม่ตาม iPhone X แม้ว่าจะต้องเสียเวลา และเสียเงินเพิ่มขึ้น แต่การได้เป็นแอนด์ดรอยโฟนรุ่นแรกที่มีรอยบากอาจทำให้ได้รับกำไรมหาศาล โดยอาจต้องยอมแรกมาด้วยคำวิจารณ์ที่หาว่า “ลอกเลียนแบบ” และ “ไม่มีความเป็นเอกลักษณ์” ครับ
ในขณะที่ตอนนี้ Google กำลังร่วมมือกับบริษัทต่างๆ และใช้งานวิศวกรเพื่อศึกษา ออกแบบ การสนับสนุนระบบปฏิบัติการ Android รุ่นใหม่ที่รองรับสมาร์ทโฟนที่มีรอยบาก ก็มีข่าวว่า Apple ในขณะนี้กำลังพัฒนาหน้าจอไร้รอยบาก ซึ่งสามารถฝังเซนเซอร์ไว้ใต้หน้าจอได้ เพื่อที่จะเอารอยบากออกไป
กลยุทธนี้เป็นกลยุทธที่ฉลาดมาก เพราะถึงแม้จะไม่ช่วยทำให้ยอดขาย iPhone X เพิ่มขึ้น แต่ก็เป็นการทำให้บริษัทคู่แข่งหลายๆ แห่งต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะตามเทรนด์ที่ Apple เป็นผู้นำครับ