สำนักข่าว Gizchina รายงานว่า ในเวลานี้ Apple กำลังประสบปัญหาใหญ่ในเรื่องของยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดของไอโฟนในทวีปเอเชียที่อยู่ในภาวะซบเซา ซึ่งปัจจุบันตลาดสมาร์ทโฟนเอเชียนั้นถือเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการแข่งขันอันเข้มข้นในตลาด ที่ในช่วงหลายปีหลังมีแบรนด์สมาร์ทโฟนของจีนไม่ว่าจะเป็น Xiaomi, OnePlus, Huawei, Vivo และ Oppo ต่างหันมาทำสมาร์ทโฟนไฮเอนด์สเปกแรงราคาถูก ซึ่งในเวลานี้ด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ผู้บริโภคในตลาดเริ่มเปลี่ยนทัศนคติกับสมาร์ทโฟนจีนในเชิงบวกมากขึ้น
ทั้งนี้ พฤติกรรมของผู้บริโภคในเอเชีย โดยเฉพาะในอินเดียและอินโดนีเซียที่เป็นตลาดเกิดใหม่แต่มีศักยภาพและจำนวนประชากรสูงต่างนิยมที่จะใช้สมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่า 300 ดอลลาร์ (ประมาณ 9 พันกว่าบาท) มากกว่าไอโฟนที่วางจำหน่ายในราคาสูง ซึ่งในตลาดจีนนั้น Apple สูญเสียส่วนแบ่งตลาดไปแล้ว 5% ภายในระยะเวลา 5 ปี (จาก 13% ในปี 2013 ลดลงเหลือ 8% ในปี 2018) ขณะที่ในตลาดอินเดีย Apple สามารถเพิ่มส่วนแบ่งได้เพียง 2% เท่านั้น ตรงกันข้ามกับแบรนด์สมาร์ทโฟนจีนที่เพิ่มส่วนแบ่งในตลาดได้มากขึ้นอย่างรวดเร็ว อาทิ Xiaomi เพิ่มส่วนแบ่งในตลาดอินเดียได้ถึง 16% ภายใน 2 ปี ซึ่งปัจจัยสำคัญอยู่ที่แบรนด์มือถือจีนตอบโจทย์ในเรื่องราคาที่จับต้องได้ของคนส่วนใหญ่ ขณะที่ Apple ไม่สามารถทำไอโฟนให้ถูกในระดับที่ลงมาแข่งขันได้นั่นเอง