Sony ได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 (เมษายน – มิถุนายน 2018) ที่ผ่านมา โดยจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ 2 ล้านเครื่อง ซึ่งลดลงจากไตรมาสที่ 2 ของปี 2017 ที่ทำได้ 3.4 ล้านเครื่อง
โดยรวมแล้ว Sony ทำรายได้ไป 1.18 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.9 หมื่นล้านบาท) ซึ่งลดลงจากเมื่อปีที่แล้วถึง 27% โดยมีเหตุผลหลักมาจากยอดจำหน่ายในญี่ปุ่นและยุโรปไม่ดีนัก แต่ยังสามารถคงยอดจำหน่ายในตลาดอื่น ๆ ทั่วโลกไว้ได้
ก่อนหน้านี้ได้มีการคาดการณ์ว่า Sony จะจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ 10 ล้านเครื่องจนถึงสิ้นปี 2018 และคิดเป็นรายได้ 5.74 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ผ่านไปแค่ 2 ไตรมาส ก็สามารถจำหน่ายไปได้แล้วถึง 9 ล้านเครื่อง และคิดเป็นรายได้ 5.47 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ Sony เตรียมแผนยุทธศาสตร์ที่จะลดต้นทุนเพื่อสร้างผลกำไรในไตรมาสที่ 3 และในปี 2019 จะผลักดันเทคโนโลยี 5G ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทเติบโตมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง : gsmarena