เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2018 ที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัว iPhone ใหม่ทั้ง 3 รุ่น คือ iPhone XR, iPhone XS และ iPhone XS Max โดยมีราคาต่างกัน ดังนี้
- iPhone XR : จอ LCD ขนาด 6.1 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 749 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 24,400 บาท)
- iPhone XS : จอ OLED ขนาด 5.8 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 999 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 32,600 บาท)
- iPhone XS Max : จอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 1,090 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 35,500 บาท)
ด้วยความที่ iPhone XR นั้น มีราคาถูกกว่า 2 รุ่น ข้างต้น และมีสเปคใกล้เคียงกับ iPhone XS ไม่ว่าจะเป็น การใช้ชิป A12 Bionic เหมือนกัน, หน้าจอ LCD ที่มีคุณภาพสูงไม่แพ้ OLED และดีไซน์ไร้ขอบสวยงามเช่นเดียวกัน ทำให้ iPhone XR ได้รับความสนใจจากผู้ใช้ค่อนข้างมากเช่นกัน
เราลองมาดูกันว่า ถ้าท่านเลือกที่จะซื้อ iPhone XR ท่านจะได้รับประสบการณ์การทำงานในรูปแบบใดบ้าง และอะไรบ้างที่ท่านจะยังไม่ได้รับในรุ่น XR นี้
- ปล. ในที่นี้ของเปรียบเทียบกันระหว่าง iPhone XR และ iPhone XS เป็นหลัก เนื่องจากราคาไม่ห่างกันมากนัก ทำให้ความน่าสนใจใกล้เคียงกัน
ความจุ
ได้อะไรบ้าง
iPhone XR มาพร้อมความจุ และราคาที่แตกต่างกัน ดังนี้
- 64 GB : 749 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 24,400 บาท)
- 128 GB : 799 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 26,000 บาท)
- 256 GB : 899 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 29,300 บาท)
iPhone XS ความจุ 64 GB มีราคาเริ่มต้นที่ 999 เหรียญสรัฐฯ (ประมาณ 32,600 บาท)
เสียอะไรบ้าง
ในด้านความจุและราคานั้น iPhone XR ค่อนข้างได้เปรียบกว่าอย่างชัดเจน
บอดี้
ได้อะไรบ้าง
- iPhone XR : ดีไซน์เดียวกับ iPhone X, ขอบอะลูมิเนียมที่ขึ้นรูปอย่างสวยงาม และกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- iPhone XS :ดีไซน์เดียวกับ iPhone X, ขอบสเตนเลสสุดพรีเมียม และกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
เสียอะไรบ้าง
ภายใต้ดีไซน์เดียวกับ iPhone X นั้น iPhone XR มาพร้อม ขอบอะลูมิเนียมที่ขึ้นรูปอย่างสวยงาม ที่ช่วยลดต้นทุนในการผลิตได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งดูโดยรวมแล้วมีความสวยงามไม่แพ้ iPhone XS เลย
แต่ด้วยความที่อลูมิเนียมเป็นโลหะที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าสเตนเลส ทำให้ในกรณีที่ iPhone XR ตกลงพื้น อาจเกิดรอยได้ง่ายกว่า iPhone XS (กรณีนี้แก้ไขได้ด้วยการใส่เคส)
อีกทั้ง Apple ยังได้อ้างว่ากระจกที่ด้านหน้าและหลังของ iPhone XS นั้น มีความทนทานมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน ส่วน iPhone XR นั้น จะมีเพียงกระจกหน้าเท่านั้นที่มีความทนทานระดับเดียวกับ iPhone XS
มาตรฐานการกันน้ำและฝุ่น
ได้อะไรบ้าง
- iPhone XR : มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP67 (อยู่ในน้ำลึก 3.2 ฟุต หรือ 1 เมตร ได้นาน 30 นาที)
- iPhone XS : มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 (อยู่ในน้ำลึก 4.9 ฟุต หรือ 1.5 เมตร ได้นาน 30 นาที)
เสียอะไรบ้าง
ถึงแม้จะด้อยกว่าในส่วนนี้ แต่ iPhone XR ก็มิได้เสียเปรียบ iPhone XS มากนัก เนื่องจากมาตรฐานการกันน้ำและฝุ่นระดับ IP67 นั้น เพียงพอต่อการป้องกันเครื่องในทุกๆ วันอยู่แล้ว และเราคงไม่ได้พก iPhone XR ติดตัวไปว่ายน้ำด้วยเป็นแน่
สี
ได้อะไรบ้าง
iPhone XR มาพร้อม 6 สีใหม่ สวยสด ดังนี้
- ขาว
- ดำ
- ฟ้า
- เหลือง
- ส้มคอรัล
- แดง (PRODUCT)RED
iPhone XS มีด้วยกัน 3 สี ดังนี้
- ทอง
- เทาสเปซเกรย์
- เงิน
เสียอะไรบ้าง
ในส่วนนี้ iPhone XR ได้เปรียบกว่าอย่างเห็นได้ชัด ด้วยสีสันสวยสดถึง 6 สี แต่ในขณะเดียวกัน สีของ iPhone XS นั้น ก็มีความพรีเมียมกว่าอยู่บ้าง
หน้าจอ
ได้อะไรบ้าง
- iPhone XR : หน้าจอ LCD ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1792 x 828 พิกเซล
- iPhone XS : หน้าจอ OLED ความละเอียด 2436 x 1125 พิกเซล
เสียอะไรบ้าง
ถึงแม้จะมีความแม่นยำของสีที่ดีมาก แต่ด้วยความที่ iPhone XR ใช้หน้าจอ LCD จึงทำให้มีความหนาแน่นของพิกเซลน้อยกว่า แต่ยังคงรองรับขอบเขตสีกว้าง และ True Tone แต่ยังไม่รองรับ HDR (ซอฟต์แวร์รองรับ แต่หน้าจอไม่รองรับ), คอนทราสต์ของภาพน้อยกว่า, และขอบจอที่หนากว่า
แต่ถึงกระนั้น Apple ยังคงทำให้ iPhone XR เป็นสมาร์ทโฟนจอ LCD ที่มีขอบบางที่สุด เป็นหน้าจอเต็มจริงๆ และคุณภาพของภาพที่ได้นั้น ก็ใกล้เคียงกับ iPhone 7 และ iPhone 8
กล้อง
ได้อะไรบ้าง
iPhone XR
- กล้องหลัง 1 ตัว : กล้องมุมกว้างความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด ƒ/1.8, ซูมดิจิตอลได้สูงสุด 5 เท่า,โหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้ที่สมจริงและการควบคุมระยะชัดลึก, HDR อัจฉริยะสำหรับภาพถ่าย
- กล้องหน้า (True Depth) : ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด ƒ/2.2, โหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้ที่สมจริงและการควบคุมระยะชัดลึก, HDR อัจฉริยะสำหรับภาพถ่าย
- วิดีโอ : บันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 เฟรมต่อวินาที, 30 เฟรมต่อวินาที หรือ 60 เฟรมต่อวินาที
iPhone XS
- กล้องหลัง 2 ตัว : กล้องคู่มุมกว้างและกล้องเทเลโฟโต้ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 และ ƒ/2.4, ซูมออปติคอล 2 เท่า และซูมดิจิตอลได้สูงสุด 10 เท่า, โหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้ที่สมจริงและการควบคุมระยะชัดลึก, HDR อัจฉริยะสำหรับภาพถ่าย
- กล้องหน้า (True Depth) : ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด ƒ/2.2, โหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้ที่สมจริงและการควบคุมระยะชัดลึก, HDR อัจฉริยะสำหรับภาพถ่าย
- วิดีโอ : บันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 เฟรมต่อวินาที, 30 เฟรมต่อวินาที หรือ 60 เฟรมต่อวินาที
เสียอะไรบ้าง
จริงๆ แล้ว iPhone XR แทบจะไม่ด้อยกว่า iPhone XS ในด้านการถ่ายภาพเลย เนื่องจากใช้กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่ากัน, มีฟีเจอร์ HDR อัจฉริยะเหมือนกัน และเซ็นเซอร์ส่วนใหญ่ก็ใกล้เคียงทำให้ ทำให้ภาพที่ได้นั้นอาจแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย (กล้องหน้า True Depth ก็เป็นตัวเดียวกัน)
แต่ในการบันทึกวิดีโอนั้น iPhone XR จะมี Dynamic Range มากกว่าที่ 30 เฟรมต่อวินาที และบันทึกเสียงสเตอริโอได้
สำหรับโหมด Portrait นั้น การเบลอของภาพอาจแตกต่างกัน เนื่องจาก iPhone XR สามารถซูมออปติคอลโดยไม่เสียรายละเอียดได้ 2 เท่า ส่วน iPhone XR นั้น มีกล้องหลังเพียง 1 ตัว และใช้เทคนิคเดียวกับ Google Pixel และ Samsung Galaxy S9
แบตเตอรี่
ได้อะไรบ้าง
- iPhone XR : สนทนาต่อเนื่องได้นาน 25 ชั่วโมง และใช้อินเตอร์เน็ตต่อเนื่องได้นาน 15 ชั่วโมง
- iPhone XS : สนทนาต่อเนื่องได้นาน 20 ชั่วโมง และใช้อินเตอร์เน็ตต่อเนื่องได้นาน 12 ชั่วโมง
- iPhone XS Max : สนทนาต่อเนื่องได้นาน 25 ชั่วโมง และใช้อินเตอร์เน็ตต่อเนื่องได้นาน 13 ชั่วโมง
เสียอะไรบ้าง
คาดว่า iPhone XR จะเป็นรุ่นที่มีการใช้พลังงานในแบตเตอรีได้ยาวนานที่สุด และมากกว่า iPhone X และ iPhone 8 เสียด้วย
ความจุ
ได้อะไรบ้าง
- iPhone XR : 64 GB, 128 GB, 256 GB
- iPhone XS : 64 GB, 256 GB, 512 GB
เสียอะไรบ้าง
แน่นอนว่าความจุสูงสุดของ iPhone XR นั้นน้อยกว่า iPhone XS อย่างชัดเจน แต่ถ้าคุณไม่จำเป็นต้องใช้ความจุถึง 512 GB แล้วนั้น iPhone XR ก็เป็นตัวเลือกที่มีความหลากหลายกว่า
ชิปเซ็ต และแรม
ได้อะไรบ้าง
- iPhone XR : ชิปเซ็ต A12 Bionic, แรม 3 GB
- iPhone XS : ชิปเซ็ต A12 Bionic, แรม 4 GB
- iPhone XS Max : ชิปเซ็ต A12 Bionic, แรม 4 GB
เสียอะไรบ้าง
ในส่วนนี้ iPhone XR มิได้น้อยหน้า iPhone XS เลย เนื่องจากใช้ชิปเซ็ต A12 Bionic และแรม 3 GB ก็เพียงพอต่อการทำงานและเล่นเกมในปัจจุบันนี้เช่นกัน
สรุป
iPhone XR อาจเป็นการย้อนรำลึกไปถึง iPhone 5c แต่หากพิจารณาแล้ว iPhone XR ทำได้ดีกว่ามาก และมีความใกล้เคียงกับ iPhone XS ในหลายๆ ด้าน เช่น
- บอดี้ใกล้เคียงกัน แต่ iPhone XR ที่มีกรอบเป็นอลูมิเนียมอาจเป็นรอยง่ายกว่า (แก้ไขได้ด้วยการใส่เคส) และตัวเครื่องหนากว่า
- หน่วยประมวลผลรุ่นเดียวกัน
- แรมใกล้เคียงกัน
สิ่งที่โดดเด่นกว่า ก็มีอยู่พอสมควร เช่น
- หน้าจอขนาดใหญ่กว่า
- ใช้งานแบตเตอรีได้ยาวนานมากกว่า
- ราคาถูกกว่า
และยังมีสิ่งที่ด้อยกว่า เช่น
- หน้าจอ LCD
- กล้องหลัง 1 ตัว
อาจกล่าวได้ว่า iPhone XR มีดีไซน์ใกล้เคียงกับ iPhone XS แต่พรีเมียมไม่เท่า อาจเหมาะกับผู้ที่ต้องการนำใช้ในชีวิตประจำวันที่ไม่เน้นด้านการถ่ายภาพมากนัก หรือเหล่าเกมเมอร์ เนื่องจากได้ประสิทธิภาพจากชิปเซ็ต A12 Bionic และแรม 3 GB ที่เพียงพอ
แต่อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงการเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นความแตกต่างมากนัก ดังนั้น การเลือกซื้อ iPhone ใหม่ทั้ง 3 รุ่นนั้น จึงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้ใช้เป็นสำคัญ
ข้อมูลอ้างอิง : gsmarena