ย้อนกลับไปปีที่แล้ว Apple เปิดตัว iPhone X พร้อมชิปประมวลผล Apple A11 Bionic ที่แรงอย่างเหลือเชื่อ จนตอนนี้คำสบประมาทเก่าๆ อย่าง “iPhone ช้า เครื่องไม่แรง” ซึ่งตอนนี้ก็แทบไม่ได้ยินเสียงนี้แล้วเพราะ Apple A11 Bionic นั้นแรงชนิดทิ้ง Android ไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว
แต่ปัญหาอย่างหนึ่งถึงแม้ว่า iPhone X จะแรง และมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง Face ID ซึ่งผู้ผลิต Android ก็ยังไม่ค่อยทำกัน นั่นก็คือราคาที่สูงไปถึฝ $999 เข้าไทยก็เหยียบ 4 หมื่น ต่อให้เทคโนโลยีดีขนาดไหน แต่ราคาที่สูงขนาดนี้ก็ยังไม่สามารถสะกิดกระเป๋าเงินมนุษย์เงินเดือนได้ดีนัก
การเปิดตัว iPhone XR หรือ iPhone X รุ่นราคาถูกลงมาหน่อยก็อาจทำให้ตลาดเรือธงฝั่ง Android มีหนาวได้ ด้วยราคาเริ่มต้น $749 หรือประมาณ 24,500 บาท (มีทั้ง Face ID แถมกล้องเดียวยังถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้อีกด้วย) ก็พอๆ กับเรือธงหลายๆ แบรนด์ของฝั่ง Android อย่าง Google Pixel เป็นต้น และไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องรอยบาก เพราะตอนนี้ผู้ผลิต Android หลายรายต่างลอกรอยบากมากันเยอะมากไม่เว้นแม้แต่ Pixel 3 หรือ Huawei P20 ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ด้วย
เมื่อเทียบกับเรือธงบิ๊กๆ อย่าง Galaxy Note 9 ซึ่งมีราคาที่สูงกว่าหรือ Pixel 3 XL ก็คาดว่าจะมีราคาที่สูงกว่า iPhone XR แน่นอน นอกจากนี้ Apple ยังรองรับการอัปเดทซอฟท์แวร์ที่ยาวนาน อย่าง iPhone 5s เปิดตัวตั้งแต่ปี 2013 จนตอนนี้ 2018 ก็ยังได้รับอัปเดทถึง iOS 12 ในขณะที่ฝั่ง Android ได้รับอัปเดท 2-3 ปีก็ถือว่าเยอะมากแล้ว
คู่แข่งที่น่าสนใจมากที่สุดของ iPhone XS และ iPhone XR ในตอนนี้คือ Huawei Mate 20 ที่รอเปิดตัววันที่ 16 ตุลาคมนี้ ก่อนหน้านี้ Huawei เองก็แซะมาแล้วว่า Apple ไม่มีเทคโนโลยีอะไรใหม่ ก็ต้องรอดูกันครับว่าตลาดสมาร์ทโฟนจะเป็นอย่างไร