เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Microsoft ประกาศว่า Edge Browser จะใช้แพลทฟอร์มของ Chromium ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มเดียวกันกับ Google Chrome แต่ล่าสุด Chris Beard ซีอีโอของ Mozilla (ผู้ผลิตเบราเซอร์ Firefox) รู้สึกไม่ปลื้มกับการตัดสินใจของ Microsoft โดยเขากล่าวว่า “การยอมรับแพลทฟอร์ม Chromium ทำให้ Google สามารถควบคุมทิศทางการใช้งานอินเทอร์เน็ตของ Microsoft ได้มากกว่าเดิม”
ข้อความในบล็อกแสดงให้เห็นว่า Beard ตำหนิท่าทีของ Microsoft แม้ว่าเขาจะเห็นด้วยในมุมมองทางธุรกิจก็ตาม ซึ่ง Beard กล่าวเพิ่มเติมว่า “การทำให้ Google มีส่วนแบ่งมากขึ้นนั้นก่อให้เกิดความเสี่ยงในหลาย ๆ ด้าน”
Microsoft เคยผูกขาดเบราเซอร์อย่าง Internet Explorer มาแล้วในช่วงปี 2000 ก่อนการมาถึงของ Mozilla ทั้งนี้ Beard มองว่าประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอยเดิมอีกครั้งก็เป็นได้ และอาจส่งผลร้ายต่อ Mozilla (เพียงแต่ครั้งนี้เป็น Google Chrome ที่ผูกขาดแทน) โดย Beard กล่าวว่า “หากมีแพลทฟอร์มใดที่คล้ายกับ Chromium และมีส่วนแบ่งการตลาดมากพอ นักพัฒนาและผู้ใช้จะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ถ้าบริการและเว็บไซต์เหล่านั้นทำงานร่วมกับแพลทฟอร์มอื่นได้ นอกเหนือจาก Chromium”
Google Chrome ครองส่วนแบ่งในตลาดเบราเซอร์มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ตามสถิติของ Statista โดย Firefox มีส่วนแบ่งรองลงมาที่ 11%, Internet Explorer 6.97%, Safari 5.13% ส่วน Microsoft Edge มีส่วนแบ่งแค่ 4.24%
ทั้งนี้ Microsoft เผยว่า เบราเซอร์ Edge ที่ได้รับการอัปเดตแล้ว จะพร้อมให้ใช้งานบน Windows 10, Windows 7, Windows 8 และ macOS ในช่วงปีหน้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานเว็บได้ดียิ่งขึ้น และลดปัญหาต่างๆ ในขณะพัฒนาเว็บสำหรับโปรแกรมเมอร์นั่นเอง
ที่มา : Engadget