รายงานจากสื่อต่างประเทศเผยว่า Foxconn โรงงานหลักที่ผลิต iPhone ได้ปลดพนักงานกว่า 50,000 ชีวิตตั้งแต่เดือนตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา ถึงแม้จำนวนปลดพนักงานจะไม่แตกต่างไปจากปีที่แล้วมากนัก แต่เวลาปลดพนักงานกลับเร็วขึ้นอีก
อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ไม่เผยตัวตนระบุว่า เนื่องจากปัญหายอดขาย iPhone ลดลงกว่าที่คาดเอาไว้มาก ทำให้กระบวนการผลิตลดลงไปด้วยตามข่าวลือก่อนหน้านี้ที่ Apple สั่งลดการผลิต iPhone รุ่นใหม่ทั้งสามรุ่น ได้แก่ iPhone XR, iPhone XS และ iPhone XS Max
ปกติแล้วสัญญาจ้างงานของ Foxconn จะเซ็นในช่วงเดือนสิงหาคม จนถึงช่วงกลาง-ปลายเดือนมกราคม แต่สิ่งที่ผิดปกติคือ Foxconn ปลดพนักงานก่อนจะถึงสิ้นปี 2018 ด้วยซ้ำ
ไม่เพียง Foxconn เท่านั้นที่ได้รับปัญหานี้ โรงงานที่เป็นแหล่งผลิตที่สองของ Apple หรือ Petragon ก็ได้สั่งปลดพนักงานเช่นเดียวกัน จากช่วงแรกที่มีคนงานมากถึง 200,000 คน แต่หลังจากยอดขายเริ่มตก Petragon ก็เริ่มสั่งปลดพนักงานไปเรื่อยๆ ไปจนต้องมีพนักงาน 100,000 คนเพื่อให้พอต่อการผลิต ณ เวลานั้น แต่หลังจากนี้ก็อาจจะปลดมากกว่านี้อีกหากยอดขายยังไม่ขยับดีนัก
Foxconn ยังคงหาทางลดต้นทุนเนื่องจากเหตุการณ์ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกโดยรวมยังตกอย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทเองได้รับผลกระทบมีงานผลิตเครื่องน้อยลงตามไปด้วย