หลังจากเป็นประเด็นฟ้องร้องโดยกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาจนกลายเป็นข่าวครึกโครม ล่าสุดศาลสูงในสหรัฐอเมริกาได้ตัดสินแล้วว่า หัวเว่ย ไม่มีความผิดในกรณีขโมยข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ก็จะมีการยื่นอุทธรณ์นัดพิจารณาคดีอีกครั้งในช่วงเดือนมีนาคม 2020 ซึ่งหากพบว่าหัวเว่ยผิดจริงจะถูกปรับเงินเป็นจำนวน 5 ล้านเหรียญฯ
ทั้งนี้ หัวเว่ย ยังมีคดีถูกฟ้องเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิทางการค้าอยู่หลายข้อหาที่ศาลยังไม่ได้พิจารณาไต่สวนอีกหลายคดี โดยก่อนหน้านี้มีหัวเว่ยมีคดีอื้อฉาวที่โจรกรรมข้อมูลเพื่อนำข้อมูลผู้ใช้ไปขายต่อ โดยในปี 2014 อัยการสหรัฐยื่นฟ้องหัวเว่ยกรณีขโมยข้อมูลเทคโนโลยีจาก operator มือถือรายใหญ่และพาร์ทเนอร์ธุรกิจอย่าง T-Mobile หลังพบหลักฐานระบุว่าวิศวกรของหัวเว่ยได้ทำการเข้าไปถ่ายภาพล้วงข้อมูลการทดสอบมือถือของ T-Mobile ที่ชื่อว่า Tappy ตั้งแต่ช่วงปี 2013 พร้อมทั้งมีเอกสารส่งต่อเผยให้เห็นว่าหัวเว่ยได้นำข้อมูลลับทางการค้านั้นไปพัฒนาหุ่นยนต์ของตนเอง จนกระทั่งในปี 2017 หัวเว่ยก็ต้องจ่ายชดเชยค่าเสียหายกับ T-Mobile เป็นจำนวนเงิน 4.8 ล้านเหรียญฯ
นอกจากเคสละเมิดทางการค้าแล้ว หัวเว่ยยังตกเป็นจำเลยอีก 13 ข้อหาเกี่ยวกับการพัวพันคดีฟอกเงิน โดยก่อนหน้านี้ ประธานระดับสูงฝ่ายการเงิน (CFO) อย่าง Meng Wanzhou ถูกควบคุมตัวที่แคนาดา หลังจากมีการตรวจสอบว่าเธอเป็นหนึ่งในบอร์ดของ Skycom บริษัทที่ถูกจับตามองว่าเป็นบริษัทจัดตั้งของ Huawei ไว้ดำเนินการทำธุรกิจคมนาคมกับบริษัทอิหร่าน ซึ่งขัดต่อมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐอเมริกานั่นเอง