หลังจากที่ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวในงานประชุมสุดยอด G20 Summit ที่ญี่ปุ่นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเรื่องการปลดแบน Huawei จากสิทธิในการทำธุรกิจซื้อขายชิ้นส่วนและเข้าถึงเทคโนโลยีกับบริษัทสัญชาติอเมริกันนั้น ดูเหมือนเป็นสัญญาณในทิศทางบวกของสงครามการค้า แต่สำหรับมือถือ Huawei นั้นดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเผชิญกับคำถามตัวเบ้อเริ่ม โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในสถานการณ์ของบริษัทที่สั่นคลอนไปถึงการตัดสินใจของผู้บริโภคและบรรดาตัวแทนจำหน่ายในตลาดมือถือทั่วโลกด้วย

Bryan Ma นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยชื่อดัง IDC มองย้อนกลับไปถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในระยะสั้น หรือทันทีที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตร Huawei จากการซื้อขายสินค้าอุปกรณ์รวมท้ังการเข้าถึงบริการต่าง ๆ ที่สำคัญของ Google เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ทำให้ยอดขายมือถือ Huawei ทั่วโลกตกลงทันที 40% (จากคำให้สัมภาษณ์ของซีอีโอ Ren Zhengfei)

นอกจากนี้ มือถือในตลาดของ Huawei ที่เปิดตัวออกมาวางขายแล้ว แม้จะยังเข้าถึงซอฟต์แวร์ของ Google ได้แต่ตัวเลขขายต่อในตลาดตกฮวบชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ โดยตัวเรือธงอย่าง P30 Pro ในยุโรปนั้นราคารับซื้อลงมาเหลือเพียง 100 ยูโร จากราคาขายมือถือ 999 ยูโร ทันทีที่มีการประกาศแบน

“ลูกค้าจำนวนมากแสดงความต้องการที่จะนำเครื่องมาขายต่อหรือเปลี่ยนค่ายไปเลย หลังจากที่รู้ว่ามือถือในมือพวกเขานั้นมูลค่าตกมหาศาล และสิ่งนี้สร้างความกังวลในใจของผู้ใช้ เป็นโจทย์ใหญ่ที่ Huawei ต้องฟื้นฟูความเชื่อมั่นกลับมาให้เร็วที่สุด” Ben Stanton นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัย Canalys กล่าว

นั่นหมายความว่าในมุมนักวิเคราะห์มองว่า แม้ Huawei จะสามารถทำการซื้อขายซอฟต์แวร์และชิ้นส่วนได้ในธุรกิจมือถือ แต่ความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ในมุมของผู้ใช้และตัวแทนจำหน่ายไม่เหมือนเดิมแล้ว ซึ่งคำถามใหญ่ในใจของคนที่ยืนอยู่ในฝั่งนี้คือ Huawei จะเจอปัญหานี้อีกในอนาคตหรือไม่ ฉะนั้น Bryan Ma เลยระบุว่าสงครามการค้าที่เกิดขึ้นสร้างรอยแผลเป็นให้ Huawei และแม้สถานการณ์จะคลี่คลาย แต่รอยแผลเป็นนี้จะยังอยู่กับแบรนด์อีกนาน

อ้างอิง