ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ร้อนแรงของ Facebook ที่เกิดขึ้นตามมาติด ๆ หลังจากข่าว Facebook ถูกปรับ 155,000 ล้านบาท เนื่องจากไม่สามารถปกป้องข้อมูลจากกรณี Cambridge Analytica
โดยล่าสุด Chris Hughes หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพร้อมกับ Mark Zuckerberg จากตั้งแต่ตั้งไข่ในหอพักนักศึกษามหาลัยฯ ได้เข้าพบรัฐบาลสหรัฐฯ และหลากหลายหน่วยงานเพื่ออธิบายว่าทำไม “Facebook ถึงควรยุติ-แยก” ซึ่งก่อนที่เขาจะเข้าพบรัฐบาลในครั้งนี้ เขาเคยออกมาพูดทีหนึ่งแล้วว่าควรจะแยก Facebook ออกจากกัน
I’m calling for breaking up @Facebook in an essay in the @nytimes. FB has become too big and too powerful, and it’s part of a trend in our economy of an increasing concentration of corporate power. We can fix this: break the company up and regulate it. https://t.co/34rITPfvJ9
— Chris Hughes (@chrishughes) May 9, 2019
ครั้งนี้ Hughes ได้เข้าหาไปยังฝ่ายนิติบัญญัติจำนวนมาก, องค์กรกำกับดูแลแห่งกระทรวงยุติธรรม, คณะกรรมาธิการการค้าสหรัฐ (Federal Trade Commission หรือย่อว่า FTC) และหน่วยงานที่สนใจในการตรวจสอบว่า Facebook ได้ถือครองอำนาจมากเกินไป และเข้าพูดกับเจ้าหน้าที่แห่งอัยการสูงสุดของนิวยอร์ก
โดยบางส่วนของการประชุม Hughes และหน่วยงานที่ร่วมมือ ได้มีการนำเสนอสไลด์ข้อมูลจำนวน 39 หน้า ซึ่งว่าด้วยคดีความทางกฎหมายประเด็นต่อประเด็นถึงสาเหตุที่ Facebook ควรถูกยุติลง เพราะมีอิทธิพลในการควบคุมบทสนทนาคนทั่วโลกมากเกินไป (ทั้งจากบน Facebook และบริษัทต่าง ๆ ที่เข้าซื้อ) ซึ่ง Mark ไม่ควรมีสิทธิไปติดตาม จัดระเบียบ หรือแม้แต่เซนเซอร์การสนทนาของ 2 พันล้านคนทั่วโลก
ในตอนนี้ทาง Facebook ยังไม่ได้ตอบกลับหรือแสดงความคิดเห็นใดเป็นชิ้นเป็นอัน หากแต่ได้มีข้อโต้เถียงกลับมาเล็กน้อยว่าการยุติบทบาทลงของ Facebook ไม่ได้แก้ปัญหาใด ๆ ที่เกิดขึ้นบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก (Hate Speech , การแบ่งแยกอำนาจทางการเมือง ฯลฯ)
ที่มา: cnet
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส