อย่างที่ทราบกันดีว่าในช่วงหลังมานี้ ผลิตภัณฑ์จาก AMD ได้รับความนิยมสูงกว่าของ Intel โดยจากการสำรวจร้านค้าในประเทศเยอรมันเมื่อไม่นานมานี้พบว่า ทั้ง AMD Ryzen 7 3700X and AMD Ryzen 5 3600 นั้น มียอดจำหน่ายสูงกว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Intel ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความร้อนแรงของ AMD ในตอนนี้ได้เป็นอย่างดี
ล่าสุด ผู้ใช้ Reddit นามว่า ingebor ได้รวบรวมข้อมูลการขายจาก Mindfactory ที่แสดงชาร์ตให้เห็นกันชัด ๆ ว่า AMD มาไกลเพียงไร ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้
ข้อมูลดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า AMD มียอดจำหน่ายชิปประมวลผลสูงกว่า Intel มาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2018 แต่ก็ยังมีรายได้น้อยกว่า Intel ซึ่งอาจเป็นเพราะ Intel ได้เพิ่มราคาชิปประมวลผลสูงขึ้น จึงทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
แต่ในช่วงหลังมานี้ AMD มีรายได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นช่วงที่ AMD ได้เริ่มวางจำหน่ายชิป Ryzen เจนเนอเรชันที่ 3 หรือซีรีส์ 3000 โดยมี Ryzen 9 3900X เป็นชิปที่มีศักยภาพสูงสุดในซีรีส์นี้
รายได้ดังกล่าวของ AMD นั้นพุ่งสูงมากเสียจนดูเหมือนว่า Intel จะไม่สามารถกลับมาครองตลาดชิปประมวลได้ในตอนนี้ (อย่างน้อยก็จนกว่า Intel จะวางจำหน่ายชิปประมวลผลเจนเนอเรชันที่ 10 ที่ใช้สถาปัตยกรรม Cascade Lake-X)
เว็บไซต์ Tom’s Hardware ได้อธิบายถึงสาเหตุที่ AMD ทำยอดจำหน่ายได้ดีกว่า Intel ในตอนนี้ว่า
AMD ได้เริ่มวางจำหน่ายชิปประมวลผล Ryzen รุ่นแรกเมื่อช่วงต้นปี 2017 ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่ากราฟเริ่มมีการปรับขึ้น แต่ทาง Intel ก็ยังคงวางจำหน่ายชิปประมวลผลที่ใช้สถาปัตยกรรม Skylake อีกหลายรุ่นที่เน้นการปรุงประสิทธิภาพมากกว่าที่จะสร้างสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่
นั่นทำให้สถาปัตยกรรม Zen ที่ใช้ในชิป Ryzen ของ AMD สามารถครองตลาดได้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่เห็นได้ชัดเจนคือช่วงที่เริ่มวางจำหน่าย Ryzen เจนเนอเรชันที่ 2 ในปี 2018 และยิ่งสูงขึ้นอีกในช่วงที่วางจำหน่าย Ryzen เจนเนอเรชันที่ 3 ในปี 2019 นี้
ถึงแม้ว่าทาง Intel จะเริ่มวางจำหน่ายชิปประมวลผล Core i9-9900KS ตัวใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม Coffee Lake Refresh ในเดือนตุลาคม 2019 นี้ ซึ่งเป็นรุ่น Refresh หรือปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีความเร็วสูงสุดถึง 5.0 GHz เพื่อแข่งกับ AMD โดยตรง แต่ก็อาจไม่เพียงพอที่จะแย่งส่วนแบ่งตลาดกลับมาได้
แต่ถ้า Intel หันมาพัฒนาชิปประมวลผลสถาปัตยกรรม Ice Lake ที่ใช้กับเครื่องเดสก์ท็อปให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้โดยไม่เพิ่มราคาให้สูงตามไปด้วยนั้น ก็อาจทำให้ Intel กลับมามียอดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นได้
ข้อมูลอ้างอิง : techradar
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส