Consumer Reports องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรกล่าวว่า iPhone 11 Pro Max มีการพัฒนาจาก iPhone XS Max เรือธงเมื่อปีที่แล้วอย่างน่าทึ่ง และสามารถผ่านการทดสอบได้อย่างดี
ด้านการทดสอบแบตเตอรีของ Consumer Reports พบว่า iPhone 11 Pro Max สามารถอยู่ได้นานถึง 40.5 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับ iPhone XS Max ที่อยู่ได้นาน 29.5 ชั่วโมง ส่วน iPhone 11 Pro อยู่ได้นาน 34 ชั่วโมง ในขณะที่ iPhone XS อยู่ได้นาน 27.5 ชั่วโมง และท้ายสุดคือ iPhone 11 อยู่ได้นาน 28 ชั่วโมง พัฒนาจาก iPhone XR เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ประสิทธิภาพของกล้องคือจุดเด่นที่ชัดเจนของ iPhone 11 ซีรีส์ Consumer Report ยกให้ iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ทำคะแนนภาพนิ่งได้ดีที่สุด รวมถึงการถ่ายวิดีโอก็ทำได้ดีเยี่ยมเช่นเดียวกัน
ในส่วนของสเปกภายใน iPhone 11 ซีรีส์ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Apple A13 Bionic มีประสิทธิภาพที่สูงมาก แรงยิ่งกว่าสมาร์ตโฟน Android ระดับเรือธงทั้งหมดที่เปิดตัวมาในปีเดียวกัน โดย Consumer Reports ระบุว่า Apple A13 Bionic สามารถแสดงประสิทธิภาพได้อย่างชัดเจนเวลาตัดต่อวิดีโอ 4K หรือการเล่นเกม
ด้านความแข็งแรงของตัวเครื่อง iPhone 11 และ iPhone 11 Pro พบว่าตัวเครื่องถึกมากขึ้น สามารถผ่านการทดสอบ drop test ได้หลายครั้ง
โดยรวมแล้ว Consumer Reports ระบุว่า “ค่อนข้างประทับใจกับ iPhone 11 ปีนี้” แม้ว่าจะไม่มี 5G ซึ่งอาจเป็นปัจจัยให้หลายคนเลือกซื้อสมาร์ตโฟน (ผู้เขียนเองก็เช่นกัน รอปีหน้าดีกว่า ฮ่าๆ) แต่ถึงอย่างนั้น iPhone 11 ก็เป็นสมาร์ตโฟนที่มีศักยภาพสูงและทันสมัยมากที่สุด
iPhone 11 Pro Max เป็น iPhone ที่สามารถขึ้นแท่นอันดับหนึ่งของ Consumer Reports ได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อย่างปีที่แล้ว iPhone XS Max ก็พ่ายให้กับ Galaxy Note 9 ไป
อ้างอิง AppleInsider