เริ่มต้นอย่างเป็นทางการสำหรับ World’s largest electronic marketplace งานคลังสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก “HKTDC Hong Kong Electronics Fair (Autumn Edition)” จัดโดย Hong Kong Trade Development Council (HKTDC) ครั้งที่ 39 และงาน “electronicAsia” ครั้งที่ 23 จัดโดย HKTDC ร่วมกับ MMI Asia ตั้งแต่วันนี้ 13 ตุลาคม 2019 ถึง 16 ตุลาคม 2019 ณ Hong Kong Convention and Exhibition Centre (HKCEC)
ปีนี้ Autumn Electronics Fair และ electronicAsia ดึงผู้ร่วมจัดแสดงสินค้า (exhibitors) ได้กว่า 4,300 รายจาก 24 ประเทศจากแต่ละภูมิภาค โดย Electronics Fair (Autumn Edition) มีผู้ร่วมจัดแสดงสินค้าประมาณ 3,740 รายจาก 19 ประเทศ ขณะที่ electronicAsia จะมีสัดส่วนที่น้อยกว่าที่ประมาณ 570 รายจาก 10 ประเทศ
ตามรายงานของ HKTDC ระบุว่า ปีนี้มีภารกิจการจัดซื้ออยู่ที่ (buying missions) อยู่ที่จำนวน 175 ภารกิจ มีบริษัทที่มาร่วมงานกว่า 9,441 บริษัท และมีจำนวนผู้ซื้อ (buyers) กว่า 13,293 รายจากทั่วโลก เพื่อเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าทั้งสองงาน ขณะที่ผู้ซื้อมากกว่า 31,000 รายทำการลงทะเบียนล่วงหน้า ซึ่งตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่าทั้งผู้ร่วมจัดแสดงสินค้าและผู้ซื้อเองนั้นยังเชื่อมั่นในศักยภาพของฮ่องกง
ผู้ซื้อลงทะเบียนผ่าน Application HKTDC Marketplace เพื่อเข้างาน
ไฮไลต์ของปีนี้มีทั้ง Tech Hall ซึ่งเป็นที่ที่รวบรวมไฮไลต์เด่น ๆ ของงานเอาไว้ แบ่งเป็นโซน AI & Voice Recognition, Robotics & Unmanned Tech, 3D Printing, Smart Tech, Virtual Reality และ Startup นอกจากนั้น ยังมี Hall of Fame ที่รวบรวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ ๆ เอาไว้จากหลากหลายประเทศ และในปีนี้ยังมีพาวิลเลี่ยนใหม่จากจีนและอินเดีย
Nanjing Pavillion
Lightweight Collaborative Robot หุ่นยนต์ช่วยประกอบสินค้า ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้ มีระบบป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงาน นำไปใช้ได้กับงานทั้ง houseware และ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น วางหน้าจอโทรศัพท์ แพกสินค้า ใช้ระบบ AI และยังโปรแกรมคำสั่งได้ตามต้องการ
Startup
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของงานวันแรกหนีไม่พ้น Media Pitch Day ตรง Startup Zone ซึ่งเปิดให้ Startup ใหม่ ๆ ได้ลองมา picth งานกันต่อหน้าคณะกรรมการและสื่อมวลชน โดยแต่ละคนจะมีเวลาในการเสนอแผนงานของตัวเองคนละ 5 นาที และมีช่วงกรรมการถามคำถาม Q&A อีก 5 นาที โดยคณะกรรมการที่มาในวันนี้มีทั้งจาก TechNode, DealStreet Asia, YourStory และ Platum โดยในวันนี้ก็มี Startup ที่น่าสนใจอยู่หลายราย ยกตัวอย่างเช่น
Future Go สกู๊ตเตอร์ไบโอนิคที่หน้าตาคล้าย ๆ Segway แต่ไม่เหมือนกันเลยด้วยระบบที่แตกต่างและดูสมบุกสมบัน มีฐานพัฒนาอยู่ที่จีน ตั้งใจขายแบบ B2C เช่น ภาครัฐ อุทยานแห่งชาติ ฯลฯ
Future Go
One Charge แท่นชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าจากฮ่องกงที่ใช้ระบบ Computer Vision เจ้าแรกของโลก และ AI จดจำป้ายทะเบียนรถได้ ตอนนี้ธุรกิจกำลังโตทั้งในเกาหลี มาเก๊า และบางประเทศในเอเชีย
One Charge
A Champs อุปกรณ์เพิ่มศักยภาพในการเทรนด์นักกีฬาแบบมืออาชีพที่นำหลัก sport-science, IoT และ Sensor Tech มาใช้ หน้าตาเหมือนหินเป็นก้อนสีดำ ๆ ตรวจจับการเคลื่อนไหว ใช้งานร่วมกับ App มีประโยชน์สำหรับโค้ช นักกีฬาอาชีพ และการวางแผนการเล่นกีฬาประเภทต่าง ๆ
A Champs
HiCooler แอร์ผสมเครื่องกรองอากาศแบบพกพาไปข้างนอกได้ตัวแรกของโลก แต่ไม่รู้ว่าจะสู้พัดลมจิ๋วพกพายอดฮิตได้หรือไม่?
HiCooler
ส่วนผู้ชนะในรอบนี้เป็น Startup ที่เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่ถึงหนึ่งปี “SleekFlow”แพลตฟอร์มออนไลน์น้องใหม่ที่ทำหน้าที่จัดการและติดตามการสื่อสารกับลูกค้าในทุก ๆ ที่ผ่านการใช้ bots ซึ่งจะช่วยแก้ pain point ของบริษัทต่าง ๆ ในการส่งออกข้อความเพื่อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีมากมาย และช่วยส่งเสริมการตลาดในด้านของการติดต่อและ engage กับผู้ซื้อ โดย Henson Tsai, ผู้ก่อตั้งและผู้จัดการด้านผลิตภัณฑ์ แห่ง Travis Group Limited, Hong Kong กล่าวว่า การมาร่วมงานในครั้งนี้ช่วยให้ได้มีโอกาสที่จะเจอกับนักลงทุน และเขาหวังว่าธุรกิจของเขาจะดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคงและตั้งใจที่จะขยายลูกค้าให้ได้ 1,500 รายในปีหน้า
ผู้ชนะครั้งนี้ คือ Henson Tsai, ผู้ก่อตั้ง SleekFlow และผู้จัดการด้านผลิตภัณฑ์ แห่ง Travis Group Limited, Hong Kong
ซึ่งเหล่าบรรดา Startup ที่มาพรีเซนต์กันในวันนี้ต่างก็มี Investor และมีการนำไปใช้งานจริงกันแล้ว บางเจ้าก็กำลังไปได้สวย บางเจ้าดูแล้วก็ยังไม่แน่ใจว่าจะไปอย่างไรต่อ ก็คงต้องช่วยกันลุ้นตบ ๆ ให้เข้าที่อีกที…
Blockchain in IoT – The next big thing?
ภายในงานยังมีสัมมนาเรื่อง Blockchain in IoT – The next big thing? ซึ่งได้เชิญ speaker ผู้เชี่ยวชาญ และเจ้าของธุรกิจที่ใช้ Blockchain เป็นระบบหลังบ้านมาขึ้นพูดด้วย
Pavel Romanenko, Blockchain Expoert & Public Speaker ได้นำเอาข้อมูลมาแชร์ว่าปีที่แล้ว (2018) อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ (Industrial Robots) มีมูลค่า 18.8 พันล้านเหรียญ และคาดการณ์ว่าในปี 2026 มูลค่าจะสูงขึ้นไปอีกถึง 59.9 พันล้านเหรียญ ซึ่งเฉพาะในเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่าอยู่ที่ 6.5 พันล้านเหรียญ ดังนั้น การทำ Smart Factories จึงเป็นเรื่องสำคัญในอนาคต ซึ่งการที่จะไปถึงตรงนั้นได้ประกอบด้วยปัจจัย 3 อย่าง อย่างแรกคือ Track ผ่านเซนเซอร์ ซึ่งถ้าพิจารณาราคาของเซนเซอร์จะเห็นได้ว่าลดลงมากเกินครึ่งในช่วงปี 2004-2014
Pavel Romanenko, Blockchain Expoert & Public Speaker
อย่างที่สอง คือ Connect โดยบริษัทอุตสาหกรรมกว่า 75% นั้นมองว่า 5G จะเป็น key สำคัญในการเปลี่ยนถ่าย Digital Transformation ขณะที่ปัจจัยอย่างสุดท้าย Validate จำเป็นต้องใช้ Blockchain โดย 10% หรือประมาณ 8.9 ล้านล้านเหรียญ ของ GDP ทั่วโลกจะถูกเก็บบน Blockchain ภายในปี 2027
ขณะที่ Monica King, CEO Agility ก็ขึ้นมาพูดถึงการใช้ Blockchain บน Application สำหรับ Smart Cities และ Real Estate Development เป็นที่แรกของโลก ซึ่งถ้าหากพิจาณาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเห็นหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนักในเรื่องของการดึงเอาเทคโนโลยีมาใช้ ดังนั้น โมนิก้าจึงได้เห็นช่องว่างตรงนี้และดึงเอา AI, VR, Blockchain, IoT มาพัฒนาธรุกิจอสังหาริมทรพย์และเมืองอัจฉริยะ ซึ่งทำให้เราได้เห็นว่า Blockchain ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สถาบันการเงินการธนาคาร หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีโดยตรงเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้ได้กับธุรกิจอื่น ๆ ได้เช่นกัน
Monica King, CEO Agility
งานประชุมครั้งนี้จัดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดภายในฮ่องกงสืบเนื่องมาจากการประท้วงอย่างต่อเนื่องและรุนแรงในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่ามีผลทำให้จำนวนผู้ที่เดินทางมาร่วมงาน (เฉพาะวันแรก) ดูบางตากว่าปีก่อนเล็กน้อย
บรรณาธิการบริหาร ชลลี่-ชล วจนานนท์ เดินทางไปร่วมชมงานครั้งนี้ด้วย
HKTDC มีชื่อเต็มว่า Hong Kong Trade Development Council หรือ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1966 เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสทางด้านธุรกิจและส่งเสริมความแข็งแกร่งด้านบริการจับคู่ทางธุรกิจ (business-matching services) ปัจจุบันมีสำนักงานทั่วโลกกว่า 50 โดยมีแพลตฟอร์ม online marketplace ที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเรื่องของการเทรดสินค้า ในหนึ่งปี HKTDC จัดงานด้านเทรดจำนวนกว่า 40 งานเฉพาะที่ฮ่องกง ไม่รวมการประชุม Conference ต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะมี Electronics Fair (Autumn Edition) ที่เป็นงานประจำปีจัดขึ้นทุกวันที่ 12-16 ตุลาคมแล้ว ยังมี Electronics Fair (Spring Edition) ที่จัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีเช่นกัน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส