หลังจากที่มีข่าวครึกโครมถึงราคาค่าทำสติกเกอร์ LINE ค่านิยม 12 ประกาศที่มีมูลค่ากว่า 7 ล้านบาทว่าเป็นการใช้จ่ายของรัฐที่เหมาะสมหรือไม่ ตอนนี้ก็มีรูปสติกเกอร์แบบเคลื่อนไหวทั้ง 16 แบบออกมาให้ชมกันแล้ว
โดยสติกเกอร์นั้นถูกแบ่งเป็น 2 หมวดใหญ่คือ
ค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ
๑. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
๒. ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทด
๓. กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
๔. ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรง
และทางอ้อม
๕. รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทย
๖. มีศิลธรรม รักษาความสัตย์
๗. เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย
๘. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย
ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่
๙. มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ
๑๐. รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลัก
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
๑๑. มีความเข้มแข็งทั้งร่างกาย
และจิตใจไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ
๑๒. คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม
มากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
หมวดสติกเกอร์สำหรับโอกาสต่างๆ
สวัสดีปีใหม่
รับทราบ
อรุณสวัสดิ์
ราตรีสวัสดิ์
ซึ่งสติกเกอร์ชุดนี้พร้อมให้ดาวน์โหลดตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2557 – 28 มกราคม 2558 โดยสามารถใช้ได้นาน 90 วัน
ทำไมสติกเกอร์แค่ 16 ลายถึงมีค่าใช้จ่ายตั้ง 7 ล้านบาท
การจะเข้าใจเรื่องนี้ เราต้องเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อตัวสติกเกอร์เสียใหม่ จากมุมผู้ใช้ที่มองสติกเกอร์เป็นรูปเล็กๆ เพื่อสื่ออารมณ์ จ้างศิลปินวาดอย่างเก่งไม่น่าเกินหลักแสน เป็นมุมมองของธุรกิจที่ต้องการส่งเสริมสินค้า ตอกย้ำแบรนด์ ซึ่งบริษัท LINE มองการทำสติกเกอร์เพื่อธุรกิจในมุมมองนี้
จุดที่ทำให้การสร้างสติกเกอร์ LINE แบบธุรกิจมีราคาสูงเกิดจากความนิยมของ LINE ในประเทศไทย ที่บริษัท LINE สามารถการัตตีได้ว่าถ้าเปิดสติกเกอร์ให้ดาวน์โหลดฟรีจะมีผู้ใช้นับล้านโหลดสติกเกอร์ไปใช้ ซึ่งสติกเกอร์ฟรีของหน่วยงานธุรกิจเหล่านี้ก็มีการฝังโลโก้ ฝังคุณสมบัติของสินค้าเอาไว้ เมื่อผู้ใช้ใช้สติกเกอร์ก็เป็นการตอกย้ำสินค้าทั้งผู้ส่งและผู้รับ ซึ่งในมุมมองของนักการตลาดถือว่าค่าใช้จ่ายหลักล้านในการเข้าถึงลูกค้าหลักล้านเหมือนกันนี้ เป็นค่าใช้จ่ายที่รับได้ (ตีกลมๆ ก็อาจจะเฉลี่ยมาว่าเงิน 7 ล้านสามารถเข้าถึงได้ 7 ล้านคน ใช้ 1 บาทเพื่อเข้าถึง 1 คน ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง)
จุดที่น่าตั้งคำถามไม่ใช่ราคาของสติกเกอร์ที่ถือว่าเป็นราคามาตรฐานของ LINE ไม่ได้แพงจนน่าเกลียดไปกว่าสติกเกอร์ธุรกิจอื่นๆ ที่ LINE ทำ แต่คำถามคือเงิน 7 ล้านสำหรับการประชาสัมพันธ์ค่านิยมหลัก 12 ประการนี้ถือว่าเหมาะสมหรือไม่ ตัวสติกเกอร์สามารถสื่อสารได้ชัดเจนจนผู้ใช้เข้าใจหรือไม่ หรือสุดท้ายก็กลายเป็น “Just another free sticker” ที่แค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
แต่ที่เห็นตอนนี้ในยกแรก เงิน 7 ล้านก็น่าจะถือว่าคุ้มได้อยู่ เพราะความขัดแย้งในเรื่องสติกเกอร์ทำให้คนทั่วสื่อสังคมออนไลน์สนใจความเป็นมาของสติกเกอร์นี้ สนใจว่าค่านิยมหลัก 12 ประการคืออะไร ก็เหลือยกต่อไปหลังสติกเกอร์เปิดให้ดาวน์โหลดจริง ว่าสติกเกอร์จะใช้งานจริงได้แค่ไหน (บางรูปก็ไม่รู้จริงๆ นะว่าจะใช้ตอนไหนดี)
ที่มา – สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ