Apptopia ได้รายงานว่า แอป Disney+ ได้รับการดาวน์โหลดลงบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ถึง 22 ล้านเครื่องแล้ว โดยมีอุปกรณ์จำนวน 9.5 ล้านเครื่อง ที่ใช้แอป Disney+ ทุกวัน

เหตุที่มีผู้ดาวน์โหลดแอป Disney+ จำนวนมากนั้น เนื่องจากผู้ใช้ไม่สามารถรับชมเนื้อหาของ Disney+ บนเว็บไซต์ หรือติดตั้งลงนนกล่องทีวีดิจิทัลอย่าง Apple TV ได้ ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งสำคัญอย่าง Netflix ที่ผู้ใช้สามารถรับชมเนื้อหาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย และนั่นทำให้ผู้ใช้บางส่วนมองว่า Disney+ ยังไม่สามารถเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Netflix ได้ในตอนนี้

Ted Sarandos (เท็ด ซารันดอส) ผู้ดำรงตำแหน่ง Chief Content Officer ของ Netflix ได้กล่าวว่า “เรายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะผลิตเนื้อหาที่ดีที่สุดและรับชมได้อย่างราบรื่น ผมคิดว่ายิ่งคุณดำเนินธุรกิจขนาดใหญ่เท่าไร แต่มันก็ยิ่งลำบากมากขึ้นใจการจัดการ และจะยิ่งทำให้ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้รวดเร็วนัก

คู่แข่งใหม่นี้ ที่จริงแล้วก็แค่คู่แข่งเก่าที่เราเคยเห็นนั่นเอง”

Disney+

ถึงแม้ว่า Netflix จะมีเนื้อหาสำหรับผู้บริโภคในวงกว้างกว่า แต่ Disney ก็ยังมีข้อได้เปรียบ เช่น

  • มีเนื้อหาจำนวนมหาศาลจากทั้ง Disney, Pixar, Marvel, Star Wars และ National Geographic ที่สามารถดึงดูผู้ใช้รายใหม่ได้ดี
  • สามารถฉายเนื้อหาสุดฮิตอย่าง Frozen 2 และ Star Wars: The Rise of Skywalker ได้ก่อนบริการสตรีมมิงรายอื่น
  • แผนการตลาดเชิงรุก เช่น การโฆษณา Disney+ ที่สวนสนุกของ Disney ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากกว่า 10 ล้านคน ทุก ๆ ปี
  • ค่าบริการรายเดือนเพียงแค่ 6.99 เหรียญ (ประมาณ 211 บาท) โดยเพิ่มผู้ใช้ได้ถึง 10 แอคเคานต์, ดูได้พร้อมกัน 4 เครื่อง และรับชมเนื้อหาแบบ 4K ได้ ซึ่งถูกกว่า Netflix ที่มีค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ 15 เหรียญ (ประมาณ 453 บาท)

เราคงต้องรอดูกันยาว ๆ ว่า Disney+ จะขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญของ Netflix ในตลาดบริการสตรีมมิงในอนาคตได้หรือไม่

ข้อมูลอ้างอิง : phonearena

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส