ศุกร์ 13 ธันวาคมที่ผ่านมาเกิดเหตุโจมตีทางไซเบอร์ที่ว่าการเมืองนิวออร์ลีนส์ของสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นเหล่าเจ้าหน้าที่ต้องรีบปิดคอมพิวเตอร์ทั้งหมดก่อนที่จะมีการปล่อยไวรัสเข้าไปจัดการกับไฟล์ข้อมูลสำคัญ ซึ่งยังไม่มีรายงานว่ามีข้อมูลหรือรหัสผ่านเสียหายจากการโจมตีในครั้งนี้
บัญชีทวิตเตอร์ NOLA Ready ของหน่วยเตรียมความพร้อมฉุกเฉินของนิวออร์ลีนส์ทวีตข้อความว่า เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้รับการแจ้งเตือนให้ปิดคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ ถอดปลั๊กอุปกรณ์ และตัดการเชื่อมต่อกับ WiFi โดยทันที
Out of an abundance of caution, all employees were immediately alerted to power down computers, unplug devices & disconnect from WiFi. All servers have been powered down as well. https://t.co/KhFefLSQsK websites will be down.
— NOLA Ready (@nolaready) December 13, 2019
nola.gov เว็บไซต์ของที่ว่าการเมืองนิวออร์ลีนส์ยังคงปิดให้บริการจนถึงตอนนี้ (จันทร์ 16 ธันวาคม) โดยแจ้งว่า “unplanned maintenance” (การบำรุงรักษาแบบไม่ได้วางแผน) ส่วนแผนกดับเพลิงและบริการฉุกเฉิน 911 ยังคงปฏิบัติงานปกติ
ขณะนี้เจ้าหน้าที่สืบราชการลับ หรือ FBI ได้เข้ามาช่วยทำการสืบสวน แม้ว่ายังไม่ทราบรูปแบบการโจมตีที่ชัดเจน แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็น Ransomware ที่จะเข้ารหัสล็อกไฟล์เพื่อเรียกเงินค่าไถ่ ซึ่งล่าสุดพฤศจิกายนที่ผ่านมามีการโจมตีระบบราชการของรัฐ Louisiana ก่อนหน้านั้นเดือนสิงหาคมมีการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ใน 23 องค์กรของรัฐเท็กซัสจนเป็นอัมพาต
Ransomware ได้ก่อเหตุทางไซเบอร์ร้ายแรงมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะ WansCry Ransomware ได้ก่อเหตุล็อกคอมพิวเตอร์มากกว่า 230,000 เครื่องในกว่า 150 ประเทศเมื่อเดือนพฤษภาคม 2017 และต่อมาเดือนมิถุนายน 2017 ก็มี Petya Ransomware ได้ก่อเหตุโจมตีคอมพิวเตอร์มากกว่า 12,500 เครื่องในยูเครนแล้วแพร่กระจายไปในยุโรป และพบการติดเชื้ออีก 64 ประเทศที่รวมถึงเบลเยียม บราซิล เยอรมนี รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา
ที่มา : cnet
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส