Vivo ได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงซีรีส์ X รุ่นล่าสุด นั่นคือ Vivo X30 และ Vivo X30 Pro โดยทั้ง 2 รุ่นนั้นรองรับ 5G และยังได้ใช้ชิปเซ็ตระดับพรีเมียม Exynos 980 ของ Samsung ที่ได้รับการพัฒนาร่วมกับทาง Vivo เป็นรุ่นแรก
ดีไซน์ และสเปก
Vivo X30 และ Vivo X30 Pro มีดีไซน์ตัวเครื่องที่ใกล้เคียงกัน โดยได้รับการเจาะรูที่มุมบนขวาบนหน้าจอสำหรับติดตั้งกล้อง ยังมีกระจกป้องกันรอยชีดข่วนทั้งด้านหน้าและหลังตัวเครื่อง
นอกจากนี้ Vivo X30 และ Vivo X30 Pro ยังมีสเปกในระดับเดียวกันอีกด้วย ดังนี้
- หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล
- ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และรองรับการสแกนในหน้าเพื่อปลดล็อกหน้าจอ
- ชิปเซ็ต Samsung Exynos 980 ระดับ 8 คอร์ (แกน Cortex-A77)
- ติดตั้งโมเดม 5G ในชิปเซ็ต รองรับการเชื่อมต่อ 5G แบบ Standalone และ Non-Standalone (บนแบนด์ n41 และ n78) และเร่งความเร็วการดาวน์โหลดได้ถึง 2.56 Gbps
- แรม 8 GB
- ความจุ 128 – 256 GB
- แบตเตอรี 4,350 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ซ Flash Charge ระดับ 33 W ผ่านพอร์ต USB Type-C
- รองรับ WiFi คื่นความถี่ 2.4GHz, 5GHz และ 5.8GHz, Bluetooth 5.0, NFC และมีช่องเสียบหูฟัง
ทั้ง Vivo X30 และ Vivo X30 Pro มาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว (Liquid-Cooling) ซึ่งทำให้ตัวเครื่องมีอุณหภูมิต่ำลงในขณะที่ซีพียูกำลังประมวลผลงานอย่างหนัก พร้อมด้วย FunTouchOS 10 ที่ค่อนข้างน่าสนใจว่ามาจากพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie (ยังไม่ใช่ Android 10 อย่างสมาร์ตโฟนเรือธงแบรนด์อื่น ๆ) ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Multi-Turbo 2.5, ออกแบบ UI ใหม่, วอลเปเปอร์แบบไดนามิก และได้รับการปรับแต่งซอฟต์แวร์ใหม่
สเปกกล้อง Vivo X30 : ซูม 20x
นี่คือสิ่งที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนของทั้ง 2 รุ่น โดย Vivo X30 ซึ่งเป็นรุ่นมาตรฐานนั้นมาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ดังนี้
- กล้องหลัก : 64 ล้านพิกเซล, f/1.8, ความยาวโฟกัส 26.4 มม.
- กล้อง Ultrawide : 8 ล้านพิกเซล, f/2.2, ความยาวโฟกัส 16 มม., มุมุกว้าง 112 องศา
- กล้อง Portrait : 32 ล้านพิกเซล, f/2.0, ความยาวโฟกัส 50 มม.
กล้อง Vivo X30 ยังมาพร้อมโหมดถ่ายภาพกลางคืน Super Night Scene 2.0 ที่นำภาพหลายเฟรมประมวลผลเพื่อลด Noise พร้อมทำให้ภาพสว่างขึ้นและเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น อีกทั้งยังมี Backlight-HDR ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้ดีในทุกสภาวะแสง
นอกจากนี้ กล้อง Vivo X30 ยังมีประสิทธิภาพในการซูมมากถึุง 20x โดยใช้อักลอริธึมช่วย ซึ่งทาง Vivo ได้กล่าวว่าสามารถรวมการทำงานของกล้องหลักและกล้อง Portrait เพื่อถ่ายภาพดวงจันทร์ได้อย่างชัดเจนด้วยอีกด้วย (แนะนำให้ใช้โหมดถ่ายภาพกลางคืน)
สเปกกล้อง Vivo X30 Pro : ซูม 60x
Vivo X30 Pro มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ดังนี้
- กล้องหลัก : 64 ล้านพิกเซล, f/1.8, ความยาวโฟกัส 26.4 มม.
- กล้อง Ultrawide : 8 ล้านพิกเซล, f/2.2, ความยาวโฟกัส 16 มม., มุมุกว้าง 112 องศา
- กล้อง Portrait : 32 ล้านพิกเซล, f/2.0, ความยาวโฟกัส 50 มม.
- กล้อง Periscope : 13 ล้านพิกเซล, ซูมแบบ Optical ได้ 5x
ด้วยประสิทธิภาพของเลนส์ Periscope นั่น ทำให้กล้อง Vivo X30 Pro สามารถซูมได้ถึง 60x (ไกลเป็น 3 เท่าของรุ่นมาตรฐาน) แต่ก็ยังคงมีโหมดการถ่ายภาพต่าง ๆ เช่นเดียวกับรุ่นมาตรฐาน
ในส่วนของกล้องหน้านั้น ทั้ง Vivo X30 และ Vivo X30 Pro มีกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/2.45
ราคาและวันที่วางจำหน่าย
Vivo X30
- 8 GB/ 128 GB : 3,298 หยวน (ประมาณ 14,300 บาท)
- 8 GB/ 256 GB : 3,598 หยวน (ประมาณ 15,600 บาท)
เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 28 ธันวาคม 2019
Vivo X30 Pro
- 8 GB/ 128 GB : 3,998 หยวน (ประมาณ 17,300 บาท)
- 8 GB/ 256 GB : 4,298 หยวน (ประมาณ 18,600 บาท)
เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 24 ธันวาคม 2019
ข้อมูลอ้างอิง : gizmochina
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส