Oppo ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนซีรีส์ Reno 3 อย่างเป็นทางการ โดยมีด้วยกัน 2 รุ่น คือ Reno 3 Pro และ Reno 3 โดยทั้ง 2 รุ่น มีจุดเด่นอยู่ที่การรองรับการเชื่อมต่อ 5G แต่รุ่น Reno 3 Pro นั้น จะมาพร้อมชิปเซ็ตความเร็วสูงกว่าอย่าง Qualcomm Snapdragon 765G ส่วนรุ่นมาตรฐานอย่าง Reno 3 นั้น เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ได้ใช้ชิปเซ็ต Dimensity 1000L ซึ่งเป็นชิปเซ็ตซีรีส์ใหม่ล่าสุดของ MediaTek

Oppo Reno 3 Pro

Reno 3 Pro มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมเจาะรูสำหรับติดตั้งกล้องหน้า โดยรองรับค่า Refresh Rate ได้ 90 Hz และรองรับการสัมผัสได้ที่ 180 Hz ซึ่งช่วยให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งยังรองรับรับค่ามาตรฐานสี DCI-P3 ระดับ 100% และรองรับการแสดงเนื้อหาแบบ HDR10+ ด้วย

Reno 3 Pro มาพร้อมกล้องที่มีประสิทธิภาพการซูมแบบไฮบริดได้ 5x (ซูมแบบ Optical ได้ 2X และใช้การซูมดิจิทัลเสริม) โดยมีกล้องหลังจำนวน 4 ตัว ดังนี้

  • กล้องหลัก : 48 ล้านพิกเซล
  • กล้อง Ultrawide : 8 ล้านพิกเซล
  • กล้องขาว-ดำ : 2 ล้านพิกเซล
  • กล้อง Telephoto : 13 ล้านพิกเซล

ในส่วนของกล้องหน้านั้น มีความละเอียดอยู่ที่ 32 ล้านพิกเซล

Oppo Reno 3

Reno 3 Pro ยังสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องด้วยแบตเตอรีขนาด 4,025 mAh ซึ่งรองรับการชาร์จไว VOOC 4.0 ระดับ 30 W ที่สามารถชาร์จจาก 0% ถึง 50% ได้ใน 20 นาที และชาร์จได้ 70% ใน 30 นาที

นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบด้วย ColorOS 7 และลำโพงสเตอริโอด้วย

Reno 3 Pro มีด้วยกัน 4 สี คือ ขาว, ดำ, Starry Night Blue และ Sunrise โดยจะเริ่มวางจำหน่ายที่ประเทศจีนในวันที่ 10 มกราคม 2020 ในราคาดังนี้

  • แรม 8 GB/ ความจุ 128 GB : 3,999 หยวน (ประมาณ 17,200 บาท)
  • แรม 12 GB/ ความจุ 256 GB : 4,499 หยวน (ประมาณ 19,400 บาท)

Oppo Reno 3

อีกทั้งยังมี Reno 3 Pro Pantone 2020 ซึ่งมาพร้อมสี Classic Blue ซึ่งทาง Pantone ได้ประกาศให้เป็นสีแห่งปี 2020 โดยทุกอย่างที่แถมมาพร้อมสมาร์ตโฟนในกล่องบรรุจภัณฑ์นั้น จะมีเป็น Classic Blue ทั้งหมด

Reno 3 Pro Pantone 2020 มีแรม 8 GB และความ 128 GB โดยจะวางจำหน่ายในราคา 4,199 หยวน (ประมาณ 18,100 บาท)

Oppo Reno 3

รุ่นมาตรฐานอย่าง Reno 3 นั้น มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว ท่ากับ Reno 3 Pro แต่มีส่วนเว้าทรงหยดน้ำด้านบนหน้าจอ สำหรับติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล

ใส่ของกล้องหลังนั้น มีความแตกต่างจาก Reno 3 Pro ดังนี้

  • กล้องหลัก : 64 ล้านพิกเซล
  • กล้อง Ultrawide : 8 ล้านพิกเซล
  • กล้อง ขาว-ดำ
  • กล้อง Portrait

Reno 3 ได้รับการติดตั้งชิปเซ็ต Dimensity 1000L ของ MediaTek ซึ่งซีพียูมีด้วยกัน 4 คอร์ คือ แกน Cortex-A77 จำนวน 4 คอร์ และแกน Cortex-A55 จำนวน 4 คอร์ ซึ่งมีความเร็วมากกว่าชิปที่ใช้แกน Cortex-A76 ถึง 20% พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G77

ทาง MediaTek ได้อย่างว่า Dimensity 1000L เป็นชิปเซ็ตที่รองรับคลื่นความถี่ 5G ในช่วง sub-6 GHz ได้เร็วที่สุดในโลก โดยมีความเร็วสูงสุดถึง 4.7 Gbps และรองรับเครือข่ายตังแต่ 2G ไปจนถึง 5G

Oppo Reno 3

Reno 3 มาพร้อมแบตเตอรีขนาด 4,025 mAh ซึ่งรองรัการชาร์จไร้สาย VOOC 4.0, ติดตั้งเซนเซอร์สแกนนิ้วบนหน้าจอ และระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบด้วย ColorOS 7

Reno 3 มีด้วยกัน 4 สี คือ ขาว, ดำ, Starry Night Blue และ Sunrise โดยจะวางจำหน่ายที่ประเทศจีน วันที่ 31 ธันวาคม 2019 ในราคาดังนี้

  • แรม 8 GB/ ความจุ 128 GB : 3,399 หยวน (ประมาณ 14,600 บาท)
  • แรม 12 GB/ ความจุ 128 GB : 3,699 หยวน (ประมาณ 15,900 บาท)

ข้อมูลอ้างอิง : gsmarena

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส