เว็บไซต์ Gizmodo ได้เปิดเผยรายชื่อแกดเจ็ต (Gadget) ในรอบทศวรรษที่ผ่าน ที่เป็นจุดเปลี่ยนของการพัฒนด้านนวัตกรรม โดยดูเหมือนว่าสมาร์ตโฟนจะเป็นอุปกรณ์ที่มาแรงที่สุด แต่ในขณะเดียวกันแล็ปท็อปก็กลับมาสร้างกระแสในตลาดเกมได้อย่างไม่น่าเชื่อ และอุปกรณ์อื่น ๆ อย่าง แวร์เอเบิล, ระบบ VR และโดรน ก็ได้รับการออกแบบเพื่อใช้งานได้อย่างสร้างสรรค์

เรามาดู 24 แกดเจ็ตที่ถือได้ว่าเป็น “นวัตกรรมแห่งทศวรรษ” (ปี 2010 – 2019) กัน โดยเริ่มต้นที่…

1. Apple iPhone 4 (2010)

iPhone 4

iPhone 4 ได้รับการเปิดตัวในปี 2010 โดยมีดีไซน์ที่แปลกตาไปจากรุ่นก่อนอย่าง iPhone 3G และเป็นสมาร์ตโฟนที่บางที่สุดในโลกในเวลานั้น

สิ่งที่ Apple ได้ทำให้ iPhone 4 กลายเป็นหมุดหมายสำคัญในการพัฒนาสมาร์ตโฟนยุคต่อมา คือ องค์ประกอบระดับพรีเมียม ไมว่าจะเป็นเทคโนโลยีหน้าจอ Retina Display, มีกล้องหน้า และ iOS 4 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ตโฟนเวอร์ชันแรกของ Apple ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Facetime ที่ได้รับความนิยมมาก และทำให้ iPhone 4 ขายได้ดีถล่มทลาย

นอกจากนี้ iPhone 4 ยังสามารถเลือก CDMA สำหรับใช้งานเครื่อข่ายอื่นได้ ซึ่งเป็นการขยายตลาดสมาร์ตโฟนให้กว้างขึ้นด้วย

2. Nest Thermostat (2011)

Nest

นี่เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ในงานในบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) ที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษ โดยเครื่องควบคุมความร้อนภายในบ้านอย่าง Nest Learning Thermostat นั้น ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี ติดตั้งและใช้งานง่าย อีกทั้งยังสามารเรียนรู้พฤติกรรมการใช้ของผู้ใช้ และสามารถแนะนำได้ว่าจะให้ปรับอุณหภูมิในบ้านให้มากขึ้นหรือน้อยลงได้

3. Samsung Galaxy Note (2011)

Samsung Galaxy Note (2011)

นี่คือสมาร์ตโฟนที่เป็นจุดกำเนิดของนิยามคำว่า แฟ็บเล็ต (สมาร์ตโฟน + แท็บเล็ต) ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้ โดย Samsung Galaxy Note รุ่นแรกนี้มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.3 นิ้ว (สมาร์ตโฟนในยุคนั้นมีหน้าจอประมาณ 3.5 นิ้ว), สเปกระดับพรีเมีบม และสามารถทำงานร่วมกับปากกา Stylus ซึ่งยังคงเป็นใช้กันอยู่จนถึง Galaxy Note รุ่นล่าสุดในปัจจุบันนี้

4. Nike FuelBand (2012)

Nike FuelBand (2012)

ถึงแม้จะไม่ได้รับการพัฒนาต่อ แต่ Nike FuelBand ก็จุดประกายให้เกิดการพัฒนาอุปกร์แวร์เอเบิลในเวลาต่อมา นี่คืออุปกรณ์สวมใส่สำหรับติดตามการเคลื่อนไหวและออกกำลังกายที่ได้รับการออกแบบมาได้น่าใช้มาก  และมีฟีเจอร์ที่ Apple Watch นำไปใช้อย่างได้ผลมาจนถึงทุกวันนี้

น่าเสียดายมากที่ Nike FuelBand นั้น ไม่ได้รับการสานต่อคอนเซปต์ด้านสุขภาพที่น่าสนใจแต่อย่างใด

5. Philips Hue (2012)

Philips Hue (2012)

อีกหนึ่งอุปกรณ์ Smart Home ที่น่าชื่นชม โดย Philips ได้เปิดตัว Hue ระบบหลอดไฟภายในบ้านอัจฉริยะเป็นครั้งแรกในปี 2012 โดยผู้ใช้สามารถควบคุมแสงสว่างภายในบ้านผ่านสมาร์ตโฟนด้วยแอป Philips Hue ได้อย่างน่าทึ่ง และยังคงสามารถทำงานได้อย่างเสถียรได้จนถึงปัจจุบันนี้ในขณะที่ระบบควบคุมแสงสว่างอัจฉริยะรุ่นอื่น ๆ ในปัจจุบันนั้นทำงานอย่างไม่ค่อยเสถียรเท่าไรนัก

6. Nexus 4 (2012)

Nexus 4 (2012)

Nexus 4 เป็นสมาร์ตโฟนระบบ Android ที่ Google พยายามพัฒนาอย่างจริงจัง โดยความร่วมมือกับ LG และเป็นคู่แข่งของ Galaxy SIII ของ Samsung ในเวลานั้น แต่ด้วยศักยภาพที่ด้อยกว่าก็ทำให้ Galaxy SIII เป็นฝ่ายครองตลาดไป

อย่างไรก็ดี ด้วยข้อด้อยสำคัญที่ด้านการถ่ายภาพ ก็ดูเหมือนจะเป็นแรงบันดาลใจให้ Google พัฒนาสมาร์ตโฟนเน้นการถ่ายภาพได้อย่างน่าประทับใจ ดังที่เราได้เห็นในสมาร์ตโฟนซีรีส์ Pixel ของ Google ในปัจจุบัน

7. Raspberry Pi (2012)

Raspberry Pi (2012)

นี่คือนิยามของคอมพิวเตอร์ราคาถูกอย่างแท้จริง โดย Raspberry Pi เป็นบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วที่มาพร้อมซีพียูและแรมในตัว โดยผู้ใช้จำเป็นต้องติดตั้งสตอเรจเอง และมีราคาเริ่มต้นเพียง 25 เหรียญ (ประมาณ 750 บาท) เท่านั้น

ถึงแม้ว่า Raspberry Pi จะไม่สามารถทดแทนเดสก์ท็อปพีซีได้ แต่มันก็ดัดแปลงเป็นอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ใช้ในการรับชมภาพยนตร์บนโทรทัศน์ หรือเป็นอุปกรณ์เล่นเกม SNES สุดคลาสสิกได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งกลายเป็นจุดเด่นในการทำงานจนทำให้ผู้ใช้ลืมข้อด้อยของมันไปเสียสนิทใจ

8. Amazon Kindle Paperwhite (2012)

Amazon Kindle Paperwhite (2012)

Amazon ได้เน้นพัฒนาอุปกรณ์เพื่อรองรับอุตสหกรรมสื่อสิงพิมพ์ได้อย่างโดดเด่น Amazon Kindle Paperwhite มาในรูปลักษณ์คล้ายแท็บเล็ตที่มีสโตร์หนังสือในตัว และอ่านได้สบายตาอีกด้วย

นี่อุปกรณ์อุปกรณ์อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่ยกระดับอุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์และเจาะตลาดผู้อ่านได้อย่างน่าทึ่ง

9. UE Boom (2013)

UE Boom (2013)

ลำโพงพกพา Ultimate Ears ของ Boom ที่ผลิตโดย Logitech ซึ่งได้รับการเปิดตัวในปี 2013 นั้น ได้ทำให้การฟังเพลงนอกสถานที่กลายเป็นเรื่องง่าย โดยเป็นลำโพงฟังเพลงสำหรับพกพาที่ใช้งานได้ง่าย, รองรับ Bluetooth และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย

ในปัจจุบัน Ultimate Ears ได้รับการพัฒนาออกมาอีกหลายรุ่น และยังคงได้รับความนิยมเช่นเดิม

10. Sony A7 (2013)

Sony A7 (2013)

ในช่วงเวลาที่กล้องฟิล์มกำลังจะจางหายไปจากวงการการถ่ายภาพ Sony ได้เปิดตัว A7 (และ A7r) ซึ่งมาพร้อมเซนเซอร์ขนาด 35 มม. ภายใต้บอดีกล้อง Mirrorless ซึ่งมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่ากล้อง DSLR รุ่นอื่น ๆ ในยุคนั้น

ไม่เพียงแค่นั้น A7 ยังทำให้ Sony สามารถขายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่สามารถใช้ร่วมกับกล้องของตนเท่านั้น เช่น การ์ดหน่วยความจำ ได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย และกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของทั้งแบรนด์กล้องยักษ์ใหญ๋อย่าง Nikon และ Canon อย่างชัดเจน

11. Nokia Lumia 1020 (2013)

Nokia Lumia 1020 (2013)

เมื่อเริ่มเข้าสู่ยุคที่สมาร์ตโฟนเริ่มมีส่วนสำคัญในการถ่ายภาพ Nokia ก็เปิดตัว Lumia 1020 โดยหวังจะครองตลาดสมาร์ตโฟนเน้นถ่ายภาพในอนาคต

Lumia 1020 มาพร้อมโมดูลกล้องหลังขนาดใหญ่ และซอฟต์แวร์ถ่ายภาพที่ชาญฉลาดที่ปฎิวัติการถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟนในเวลาต่อมา

12. Pebble (2013)

Pebble (2013)

หลังจากที่มีการพัฒนาสมาร์ตวอตช์มานานหลายปี ในที่สุด Pebble ก็ได้เปิดตัวสมาร์ตวอตช์ที่น่าตื่นตาตื่นใจในปี 2013 โดยมาพร้อมดีไซน์เรียบหรู และฟังก์ชันแสดงการแจ้งเตือน, อีเมล, สายเรียกเข้า และข้อความต่าง ๆ บนข้อมือได้อย่างน่าทึ่ง โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเปิดดูสมาร์ตโฟนเลย

นอกจากนี้ Pebble ยังอนุญาตให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปเสริมการทำงานต่าง ๆ เพื่อปรับแต่งให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของตนได้ตามต้องการ อีกทั้งยังมีราคาถูก และแบตเตอรีสุดอึด ที่ทำให้ผู้คนสนใจมากกว่า Apple Watch ที่เปิดตัวตามมาเสียอีก

13. Amazon Echo (2014)

Amazon Echo (2014)

Amazon เปิดตัวลำโพง Echo ที่มาพร้อม Alexa ผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Assistant) ซึ่งใช้งานในชีวิตประจำวันได้จริง อย่างที่เคยเห็นในภาพยนตร์ไซไฟ

Amazon Echo เป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การทำงานแบบอุปกรณ์ Smart Home ได้ครอบคลุมอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ขอให้อ่านนิทานก่อนนอน, ปิด-เปิดไฟ, ตั้งเวลาเครื่องซักผ้า, ตั้งเวลาการประกอบอาหาร, ตรวจสอบสภาพอากาศ, เล่นเพลง และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องใช้สมาร์ตโฟนเลย

14. Surface Pro 3 (2014)

Surface Pro 3 (2014)

Microsoft ได้รับปรุง Surface Pro 3 ได้อย่างน่าชื่นชม โดยเป็นแท็บเล็ตระบบ Windows รุ่นแรก โดยเปลี่ยนจาก Windows RT เป็น Windows 8 เวอร์ชันเต็ม และเปลี่ยนมาใช้ชิปประมวลผล x68 เช่นเดียวกับแล็ปท็อปและเดสก์ท็อปพีซี

นั่นทำให้ Surface Pro 3 กลายเป็นแท็บเล็ตระบบ Windows รุ่นแรก สามารถใช้งานได้อย่างจริงจัง อีกทั้งยังมีบอดีที่บางและเบามากกว่าอีกด้วย

15. DJI Phantom 3 (2015)

DJI Phantom 3 (2015)

DJI เปิดตัวโดรน Phantom ในปี 2013 โดยมาพร้อม 4 ใบพัด และสามารถใช้งานได้ง่ายและหลากหลาย จนบางครั้งก็ถูกเรียกว่า “iPhone แห่งวงการโดรน”

โดรน Phantom รุ่นแรกนั้น จะใช้เชื่อมต่อกับแอป Thrid-Party เพื่อช่วยในการถ่ายภาพ เช่นเดียวกับ GoPro จากนั้นทาง DJI ก็เปิดตัวรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกล้องระดับ HD และแกน Gimball มอเตอร์ 3 แกนหมุน

สำหรับ DJI ได้เปิดตัว Phantom รุ่นที่ 4 ซึ่งมาพร้อมกล้องระดับ 4K และในขณะนี้กำลังเน้นการพัฒนาโดรนที่มีขนาดเล็กลง และโดรนพับได้

16. Dell XPS 13 (2015)

Dell XPS 13 (2015)

Dell ผู้ผลิตแล็ปท็อปที่ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน ได้เปิดตัว XPS 13 โดยปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ให้มีขอบจอเล็กลงทั้ง 3 ด้าน, แบตเตอรีใช้ได้ยาวนานขึ้น (ราวกับแรงบันดาลใจมาจาก MacBook Pro) และได้กลายเป็นรูปแบบการดีไซน์แล็ปท็อปในยุคต่อมาจนถึงทุกวันนี้

17. Airpods (2016)

Airpods (2016)

เดิมที AirPods ถูกค่อนขอดว่าเป็นหูฟังไร้สายที่มีดีไซน์แย่มาก แต่ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดของ Apple ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และอาจเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ Apple ประทับใจมากที่สุดด้วย

AirPods มาพร้อมชิป W1, ปรับปรุงการเชื่อมต่อ Bluetooth ให้ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ซึ่งกลายเป็นจุดเด่นที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ โดยเพียงแค่เปิดฝาเคสก็สามารถใช้งาน AirPods ได้ทันที

ในขณะนี้ AirPods ได้กลายเป็นหูฟังไร้สายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกแล้ว

18. Fitbit Charge 2 (2016)

Fitbit Charge 2 (2016)

Charge 2 เป็นอุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกายของ Fibit ที่ดูเรียบง่ายและเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่รักการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก

Fitbit ได้ปรับปรุง Charge 2 ให้สวมใส่ได้อย่างสบาย, หน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้นจนแสดงข้อความแจ้งเตือนได้, แบตเตอรีอยู่ได้นาน 5 วัน และติดตามการนอนในรูปแบบต่าง ๆ ได้

แม้ว่า Fitbit จะพัฒนา Charge รุ่นใหม่ ๆ ให้มีฟีเจอร์คล้ายกับสมาร์ตวอตช์มากขึ้น แต่ Charge 2 ก็มีจุดเด่นที่ความเรียบง่าย และสามารถเรียกได้ว่าเป็น Fitness Band ได้จริง ๆ

19. Oculus Rift (2016)

Oculus Rift (2016)

Oculus Rift ได้มอบประสบการณ์การท่องโลก VR (Virtual Reality) เช่นเดียวกับที่เคยเห็นในภาพยนตร์ไซไฟ แต่ก็ยังคงมีราคาแพง และจำเป็นต้องอัปเกรดคอมพิวเตอร์ค่อนข้างสูงเพื่อรองรับการทำงานร่วมกัน

แต่ถึงกระนั้น ด้วยเนื้อหาเปิดตัวพร้อมกับ Oculus Rift อย่าง Ad1ft, Lucky’s Tale และ Eve: Valkyrie ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า Oculus Rift เป็นจุดกำเนิดของยุคการพัฒนา VR อย่างจริงจังมาจนถึงปัจจุบันนี้

20. iPhone X และ Face ID (2017)

iPhone X และ Face ID

iPhone X ได้รับการเปิดตัวเพื่อฉลองครบรอบ 10 ปีของ iPhone โดยมาพร้อมองค์ประกอบอันโดดเด่นมากมาย เช่น จอ OLED รุ่นใหม่, ดีไซน์บอดีใหม่ และน่าสนใจมากที่สุดคือเทคโนโลยี Face ID สำหรับสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกหน้าจอ ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกชิ้นหนึ่งของ Apple และปรับเปลี่ยนเปลี่ยนพฤติกรรมขอบริโภคให้หันมาใช้สมาร์ตโฟนจอเต็มที่ไม่มีปุ่ม Home ได้

ในปัจจุบัน Apple ได้ใช้เทคโนโลยี Face ID ใน iPhone รุ่นใหม่ทุกรุ่น และอาจขยายการใช้งานไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ อย่าง iPad และ MacBook อีกด้วย

21. Nintendo Switch (2017)

Nintendo Switch (2017)

Nintendo Switch คือการพัฒนาเพื่อก้าวข้ามความผิดพลาดของ Nintendo Wii U ได้สำเร็จ โดยประสบความสำเร็จใกล้เคียงกับ Game Boy ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบเล่นเกมแบบพกพาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตลอดกาล

Nintendo Switch มาพร้อมหน้าจอทัชสกรีน ขนาด 6.2 นิ้ว โดยสามารถเชื่อมต่อกับโทรทัศน์ได้อย่างง่ายดายผ่านแท่นชาร์จ

ถึงแม้ว่า Nintendo Switch จะไม่สามารถประมวลผลกราฟิกได้ยอเยี่ยมเท่ากับเครื่องคอนโซลอย่ง PS4 และ Xbox One แต่เกมต่าง ๆ ที่พอร์ตลงมาก็ทำได้ดี เพื่อผู้เล่นได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน

22. Samsung Galaxy S8 (2017)

Samsung Galaxy S8 (2017)

Samsung Galaxy S8 เป็นสมาร์ตโฟนที่มีดีไซน์สมบูรณ์แบบมาก โดยมีความสมดุลของขอบจอ, หน้าจอใหญ่และสวยมาก, ขอบจอที่โค้งมน, และกระจกด้านหลังตัวเครื่องที่เรียบลื่น และกลายเป็นรูปแบบดีไซน์ที่ Samsung นำมาใช้อย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีหลังมานี้

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สแกนนิ้วบนที่ด้านหลังตัวเครื่อง, รองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi, มาตรฐานการปัองกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68, ช่องเสียบ microSD และช่องเสียบหูฟัง

นั่นอาจกล่าวได้ว่า Galaxy S8 เป็น 1 ใน 3 สมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดของ Samsung ซึ่งเป็นผู้นำการผลิตสมาร์ตโฟนระดับโลกเลยทีเดียว

23. Google Pixel 3 (2018)

Google Pixel 3 (2018)

Pixel 3 มาพร้อมจุดแข็งที่สุดของสมาร์ตโฟนซีรีส์ Pixel คือ กล้องที่ยอดเยี่ยม พร้อมเสริมประสิทธิภาพด้วยโหมด Night Sight และ Super Res Zoom ทั้ง ๆ ที่มีเพียง 1 กล้องเท่านั้น ในขณะที่คู่แข่งอื่น ๆ ต่างก็มีกล้องหลัง 2 – 3 ตัวแล้ว

นอกจากนี้ Pixel 3 ยังมีฟีเจอร์การชาร์จไร้สาย และได้รับการติดตั้งซอฟต์แวร์ระบบ Android ที่สะอาดมากจาก Google ซึ่งกลายเป็นเสน่ห์ของ Pixel 3 ที่ผู้ใช้ชื่นชอบไปแล้ว

24. Apple Watch Series 4 (2018)

Apple Watch Series 4 (2018)

Apple Watch ได้รับการเปิดตัวในปี 2014 โดยเป็นสมาร์ตวอตช์สุดพรีเมียม และได้รับความนิยมในวงกว้าง โดย Apple Watch Series 4 ที่เปิดตัวในปี 2018 นั้น ได้รับการปรับปรุงหน้าจอให้ใหญ่และสว่างมากขึ้น และยังเป็นสมาร์ตวอตช์รุ่นแรกที่รองรับการตรวจจับการหกล้ม และ ECG (การตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ) ได้อีกด้วย

ในปัจจุบัน เราจะเห็นผู้คนมากมายสวมใส่ Apple Watch รุ่นต่าง ๆ กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งเป็นสิ่งพิสูจน์ว่า Apple สามารถปรับเปลี่ยน Apple Watch จากสมาร์ตวอตช์สุดหรูให้กลายเป็นแวร์เอเบิลเพื่อสุขภาพที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้

ข้อมูลอ้างอิง : gizmodo

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส