หลังมีประกาศจากทาง FOIN Community เพจต่าง ๆ ว่าจะมีการนำเหรียญขึ้นกระดานซื้อขายช่วงต้นปี 2020 หลังจากมีการเลื่อนมาแล้วหลายครั้ง ในที่สุดก็ได้มีการลิสต์ หรือนำเหรียญเข้าตลาดแลกเปลี่ยนที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนักที่ชื่อ P2PB2B และ HotBit เมื่อช่วงเย็นของวันพฤหัสฯที่ 2 มกราคม 2020 ที่ผ่านมา

และทันทีที่เปิดให้มีการซื้อขาย ราคาของ FOIN ก็ร่วงหนักกว่า -99.xx% (จากราคาประมาณ $3,xxx เหลือเพียงไม่กี่ดอลล่าห์สหรัฐฯ) ในเวลาไม่กี่นาที สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับบรรดานักลงทุนที่ถือครองเหรียญ และรอการนำเหรียญเข้าตลาดมาอย่างยาวนาน เพื่อที่จะขายทำกำไรได้ตามคำกล่าวอ้างของผู้ชักชวน หรือแม่ทีม

Foin แชร์ลูกโซ่

แชร์ลูกโซ่ Foin FoPay
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ DSI และหน่วยงานกำกับดูแลจะพยายามออกมาเตือนเกี่ยวกับเหรียญนี้ ว่ามีลักษณะน่าสงสัยเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ฯลฯ แต่ด้วยการโน้มน้าว และแอบอ้างด้วยข้อมูลผิด ๆ ของเหล่าแม่ทีม และผู้ชักชวนที่ทำงานกันอย่างเป็นระบบ จึงทำให้ยังมีผู้หลงเชื่ออยู่เป็นจำนวนมาก และกลายเป็นประเด็นถกเถียงในหมู่นักลงทุนที่ถือครองเหรียญ FOIN กับเหล่านักลงทุน หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเงินสกุลดิจิทัล ที่พยายามออกมาเตือน ให้ข้อมูล และชี้แจงถึงความไม่น่าเชื่อถือของ FOIN ในแง่มุมต่าง ๆ จนบานปลาย และบางครั้งกลายเป็นการทะเลาะกันผ่าน Social Media เพราะต่างฝ่ายต่างเชื่อมั่นในข้อมูล และมุมมองของตัวเอง

แม้จะยกเหตุผลและหลักฐานมาแสดงให้ผู้ที่หลงเชื่อมากเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้เป็นการตัดสินใจตามข้อมูล ความเชื่อ ความเข้าใจ ของตนเอง และผลลัพท์ที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้ ที่ราคาของ FOIN ได้สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง โดยร่วงลงมาเหลือเพียงไม่ถึง 1% ในเวลาอันรวดเร็ว และไม่มีทีท่าว่าจะกลับขึ้นมาได้

ทั้งยังไม่มีแถลงการณ์หรือการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนใด ๆ จากผู้บริหาร ทีมงาน หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ยิ่งสร้างความกังวลใจให้กับผู้ที่หลงเชื่อนำเงินไปลงทุนกับเหรียญดังกล่าว ซึ่งหากดูจากจำนวนผู้ติดตาม ตามเพจและกลุ่มต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Foin หรือ FoPay คาดว่ามีผู้เสียหายอยู่จำนวนไม่น้อยหลายพันคน และยังไม่สามารถคำนวณมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ในขณะนี้

Foin แชร์ลูกโซ่

Mr.Ruslan Salatov (CEO) หนึ่งในผู้บริหารของ FOIN

ทั้งนี้ผู้เสียหายในไทยบางส่วนได้เริ่มมีการรวมกลุ่มกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และเตรียมยื่นเรื่องร้องเรียน หรือแจ้งความดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเริ่มเก็บรวบรวมหลักฐาน รูปถ่ายหน้าจอ ข้อความ สลิปโอนเงิน และคลิปวิดิโอต่าง ๆ ที่เคยถูกชักชวน รวมถึงเข้าร่วมกลุ่มกับผู้เสียหายรายอื่นเพื่อร่วมกันดำเนินการ โดยมีกลุ่มผู้เสียหายที่รวมตัวกันแล้วตามช่องทางนี้

ล่าสุดเริ่มมีการสังเกตเห็นว่าได้มีการปลดเหรียญ FOIN ออกจากกระดานเทรด P2Pb2b ออกแล้ว หลังจากมีประเด็นทั้ง ๆ ที่เปิดให้มีการซื้อขายได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ทั้งนี้กระดาน P2Pb2b เป็นเพียง 1 ใน 2 กระดานหลักที่เปิดให้มีการซื้อขาย ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงกระดานเทรด HotBit เพียงกระดานเดียวที่ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ แต่ก็มีข้อสังเกตจากนักลงทุน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มว่า

อาจเป็นเพียงการสร้าง Volume ปลอม หรือการพยุงราคาด้วย Bot หรือระบบอัตโนมัติเท่านั้น ไม่ได้มีการซื้อขายจริงแต่อย่างใด

FOIN

อีกทั้งทางฝั่งผู้บริหาร แม่ทีม ผู้ชักชวน ก็ยังไม่มีการออกมาอธิบาย แถลงการณ์ หรือให้เหตุผลที่ชัดเจนในเรื่องที่เกิดขึ้น แต่กลับนิ่งเงียบ และเริ่มมีการบ่ายเบี่ยง อ้างถึงเพจ/เว็บไซต์ปลอม และโยนความผิดให้กับทางกลุ่มผู้ลงทุนว่าขาดความรู้ ความเข้าใจ ไม่มีความรอบคอบ หลงเชื่อโอนเงินหรือ FOIN ที่ซื้อมาด้วยเงินคริปโตฯ มูลค่าสูง ไปให้ตามคำแนะนำของเพจหรือเว็บไซต์ปลอมเหล่านั้นเอง และยังมีการไล่ปิดความเห็น ลบสมาชิกออกจากกลุ่ม/ห้องสนทนา ที่มีรูปถ่าย คลิปวีดิโอ หลักฐานที่อยู่ตามเพจและเว็บไซท์ต่าง ๆ แล้ว

ดังนั้นผู้ที่คาดว่าตนเองกำลังตกเป็นเหยื่อ และได้รับความเสียหายในเรื่องนี้ อาจต้องรีบดำเนินการในส่วนของตน หยุดเชื่อคำแนะนำจากพวกแม่ทีมหรือคนที่่ชักชวนลงทุน พิจารณาจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และคอยติดตามข่าวในกลุ่มผู้เสียหายตามที่ให้ลิงก์ไว้ด้านบนอย่างใกล้ชิด

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส