Azhar Hussain, CEO ของ Hanhaa บริษัทด้าน IoT ได้ให้สัมภาษณ์กับ Sprectum.ieee ว่า จุดจบของ Wi-Fi กำลังใกล้เข้ามาแล้ว โดย Azhar เชื่อว่าการจัดสรรโครงข่ายเล็ก ๆ ในกลุ่มผู้ใช้อย่าง เทศบาล มหาวิทยาลัย และบริษัทต่าง ๆ ให้สามารถสร้างเครือข่ายส่วนตัวด้วย 5G ซึ่งมีค่าความหน่วงที่น้อยมาก สร้างความรวดเร็วและสะดวกสบายได้มากกว่า จะเป็นเหตุผลที่จะทำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนมาใช้ 5G ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT แทน Wi-Fi ครับ
เหตุผลของ Azhar Hussain ถือว่าน่าสนใจ เพราะสอดคล้องกับการใช้งานจริงในปัจจุบันอย่าง Zach Supalla, CEO ของ Particle บริษัทจำหน่ายอุปกรณ์ IoT ให้ข้อมูลว่า เกินครึ่งของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตบนระบบคลาวด์นั้นเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตมือถือมากกว่า Wi-Fi โดย Zach ให้เหตุผลว่าอินเทอร์เน็ตมือถือนั้นเชื่อมต่อง่าย และมีความยุ่งยากที่น้อยกว่า Wi-Fi ซึ่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่า
จริง ๆ แล้วการเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน Wi-Fi นั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างยุ่งยาก และอาจไม่สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกอย่างบรรณาธิการของ Spectrum, Stacey Higginbotham ก็บอกว่าเขาเคยเชื่อมต่ออุปกรณ์ประเภท IoT มานับร้อยชิ้น ก็ไม่เคยทำสำเร็จได้ตั้งแต่ครั้งแรกแม้ครั้งเดียว ซึ่งปัจจุบันผู้ผลิตอุปกรณ์ IoT หลายแบรนด์อย่าง Amazon, Google และ Apple ต่างกำลังพัฒนาให้อุปกรณ์เหล่านี้มีการใช้งานที่ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม
Azhar Hussain กล่าวว่า เมื่อเทียบกันแล้วระบบเครือข่ายนั้น “ง่ายกว่าเยอะมาก” เพียงแต่การใช้เครือข่ายโทรศัพท์มีผลเสียคือต้นทุนที่สูงกว่าในการจ่ายค่าอินเทอร์เน็ต แต่ Azhar เชื่อว่าในอนาคตค่าบริการเครือข่ายจะมีราคาที่ถูกลงตามระยะเวลาเอง และกว่าสิ่งที่ Azhar เชื่อก็น่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปีในการพัฒนาออกมาครับ
อ้างอิง Spectrum
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส