เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับสมาร์ตโฟน Huawei P40 ซีรีส์ โดยรุ่นนี้มีทั้งหมดสามรุ่นตามข่าวลือก่อนหน้านี้ ได้แก่ Huawei P40, Huawei P40 Pro และ Huawei P40 Pro+
Huawei P40 ซีรีส์ใช้ชิปประมวลผล Kirin 990 5G โดนมี CPU, GPU และ NPU ที่ประมวลผลแรงขึ้นกว่ารุ่นก่อน 23%, 49% และ 460% ตามลำดับ และเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นเดียวของโลกที่ชิปเซ็ตรองรับ 5G ภายในตัว ไม่เหมือน Snapdargon 865 ที่ต้องใช้ชิปโมเด็มแยก แน่นอนว่าประหยัดแบตเตอรีกว่าการใช้ชิปโมเด็มแยกออกมาอย่างแน่นอน รองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 ให้ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 2400Mbps, รองรับ Super Charge และ Wireless Charge 40W แกะกล่องมาเป็น EMUI 10.1 รุ่นใหม่ล่าสุด
ในส่วนของ UX, Huawei ได้ปรับการใช้งานให้มีความเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น และยังมีฟีเจอร์อีกหลายอย่างที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวัน ได้แก่
- รองรับการเปิด Multi Windows หรือเปิดสองแอปได้ในหน้าจอเดียว
- ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ชื่อว่า Celia คล้าย Google Assistant และ Siri
- ฟีเจอร์ Multi-Device Control Panel หรือหน้าต่างสำหรับควบคุมอุปกรณ์ IoT เช่น ลำโพงหรือหลอดไฟได้ เป็นต้น
- ฟีเจอร์ Huawei Share ทำงานคล้ายกับ AirDrops ของ Apple
- ฟีเจอร์ Cross Device Photo Gallery ดูรูปภาพข้ามอุปกรณ์ได้
- ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่เร็วกว่าเดิม 30%
ด้านแอปพลิเคชัน Huawei P40 ซีรีส์ไม่มี Google Services มาตามคาด ในรุ่นนี้ยังคงใช้ Huawei Mobile Services เหมือนเดิม มีทั้งหมด 5 สีให้เลือก ได้แก่ Black, Blush Gold, Deep Sea Blue, Ice White และ Silver Frost ทีนี้มาดูความแตกต่างของ Huawei P40, Huawei P40 Pro และ Huawei P40 Pro+ กัน
Huawei P40
- ดีไซน์ขอบจอแบนปกติ ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล 60Hz
- กล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ประกอบไปด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ RYYB ระยะ 23mm รูรับแสงกว้าง f/1.9
- กล้องเลนส์ซูม 3x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.4 OIS
- กล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษ 16 ล้านพิกเซล ระยะ 17mm รูรับแสงขนาด f/2.2
- มีเซนเซอร์สำหรับตรวจจับอุณหภูมิ
- กล้องหน้าเจาะรู้หน้าจอความละเอียด 32 ล้านพิกเซล AF f/2.2 พร้อมเซนเซอร์ IR Depth/Gesture และ Ambient + Proximity
- กันน้ำ IP53
Huawei P40 Pro
- ดีไซน์ขอบจอโค้งสี่ด้าน หน้าจอ 6.58 นิ้ว Super High Resolution ความละเอียด 2640 x 1200 พิกเซล ความถี่ 90Hz เฉดสีกว้าง DCI-P3 HDR พร้อมระบบตัดแสงลดลง 30%
- กล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว ประกอบไปด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ RYYB ระยะ 23mm รูรับแสงกว้าง f/1.9
- กล้องเลนส์ซูม 5x ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.4 OIS
- กล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษ 40 ล้านพิกเซล ระยะ 18mm รูรับแสงขนาด f/1.9
- มีเซนเซอร์สำหรับตรวจจับอุณหภูมิ
- มีเซนเซอร์สำหรับตรวจจับวัตถุ
- กล้องหน้าเจาะรู้หน้าจอความละเอียด 32 ล้านพิกเซล AF f/2.2 พร้อมเซนเซอร์ IR Depth/Gesture และ Ambient + Proximity
- กันน้ำ IP68
Huawei P40 Pro+
- ดีไซน์ขอบจอโค้งสี่ด้าน หน้าจอ 6.58 นิ้ว Super High Resolution ความละเอียด 2640 x 1200 พิกเซล ความถี่ 90Hz เฉดสีกว้าง DCI-P3 HDR พร้อมระบบตัดแสงลดลง 30%
- กล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว ประกอบไปด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ RYYB ระยะ 23mm รูรับแสงกว้าง f/1.9
- กล้องเลนส์ซูม 3x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.4 OIS
- กล้องเลนส์ซูม Periscope 10x ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/4.4 OIS
- กล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษ 40 ล้านพิกเซล ระยะ 18mm รูรับแสงขนาด f/1.8
- มีเซนเซอร์สำหรับตรวจจับอุณหภูมิ
- มีเซนเซอร์สำหรับตรวจจับวัตถุ
- กล้องหน้าเจาะรู้หน้าจอความละเอียด 32 ล้านพิกเซล AF f/2.2 พร้อมเซนเซอร์ IR Depth/Gesture และ Ambient + Proximity
- กันน้ำ IP68
จุดเด่นด้านกล้อง
- Huawei ใช้เทคโนโลยี Huawei Ultra Vision Sensor ขนาดใหญ่ สามารถรับแสงได้มากกว่าเดิมถึง 40% เก็บรายละเอียดของภาพได้มากขึ้น พร้อมชูจุดเด่นเซนเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดในตลาด
- Huawei P40 Pro และ P40 Pro+ สามารถดัน ISO ได้สูงสุด 409,600 ในขณะที่ Samsung และ iPhone สามารถทำได้เพียง 12,800
- เทคโนโลยี Octa-PD โฟกัสในที่แสงน้อยได้เร็วมาก
- XD Fusion Image Sensing ระบบถ่ายภาพหลาย ๆ ภาพด้วยกล้องสองตัว แล้วนำภาพมารวมกันเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุดออกมา
- ระบบซูม 100x ซูมได้ไกลสุด ๆ โดยที่ยังเก็บรายละเอียดได้ดีเยี่ยม
- รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K (3840 x 2160 พิกเซล) 60fps
ราคา
- Huawei P40 แรม 8GB + 128GB ราคา 799 ยูโร หรือประมาณ 28,700 บาท
- Huawei P40 Pro แรม 8GB + 256GB ราคา 999 ยูโร หรือประมาณ 35,800 บาท
- Huawei P40 Pro แรม 8GB + 512GB ราคา 1,399 ยูโร หรือประมาณ 50,000 บาท
ในส่วนของราคาไทยนั้นต้องรอ Huawei ประเทศไทยประกาศอีกครั้ง แต่เชื่อว่าราคาคงไม่สูงเท่าฝั่งยุโรปแน่นอนครับ