เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ทีมงานเว็บแบไต๋ได้เข้าร่วมงานสัมมนาทางเทคนิคออนไลน์ของ Samsung ซึ่งในงานนี้ซัมซุงได้เปิดตัวไลน์อัป QLED 8K รุ่นใหม่ พร้อมผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในกลุ่มทีวีประจำปี 2020 อย่างทีวีดีไซน์สวยในตระกูลเดอะเฟรม (The Frame) เดอะเซรีฟ (The Serif) และเดอะเซโร (The Sero) พร้อมทั้งได้ถามคำถามกับทางวิศวกรของซัมซุงโดยตรงอีกด้วย
Samsung QLED 8K TV รุ่นปี 2020
แน่นอนว่าความเป็นทีวี 8K ก็คือทีวีกลุ่มท็อปที่จะอัดเทคโนโลยีทั้งหมดของซัมซุงเข้าไป อย่าง
- ดีไซน์ที่ให้พื้นที่หน้าจอมากขึ้น พร้อมความหนาของทีวีเพียง 15 มม.
- เพราะปัจจุบันเรายังไม่มีแหล่งภาพที่เป็น 8K มากเท่าไหร่นัก เพราะฉะนั้นกระบวนการ Upsample หรือการขยายภาพในทีวีจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ใน Samsung QLED 8K TV ใช้ AI แบบ Deep learning เพื่อขยายภาพจากแหล่งต่าง ๆ เป็น 8K ซึ่งเรียกเทคนิคนี้ว่า DLSR หรือ Deep Learning Super resolution ซึ่งก็ทำให้ภาพ Full HD หรือ 4K ออกมาดูคมชัดสวยงามบนจอ 8K
- เพราะ QLED ไม่ใช่ OLED เพราะฉะนั้นจึงต้องมีแผงไฟอยู่ด้านหลังแผงภาพ ซึ่งก็เป็นแบบ LED Direct Full Array เปิด-ปิดไฟ backlight เป็นส่วน ๆ ได้ ทำให้ Contrast สูงขึ้น
- แต่ข้อดีของ QLED ที่เหนือกว่า OLED คือให้ความอิ่มของสีได้ดีมาก เรียกว่าสีมาเต็ม 100% Volume แถมยังให้มุมมองภาพกว้างด้วย
- ทีวี Samsung QLED 8K นั้นรองรับ Codec ภาพตัวใหม่อย่าง AV1 ด้วย ซึ่งบีบอัดข้อมูลได้มากกว่าเดิม ทำให้รองรับการเปิด Youtube 8K ที่ส่งสัญญาณภาพมาเป็น AV1 ด้วย
เรื่องของเสียง ก็มีระบบปรับปรุงเสียงรุ่นใหม่ล่าสุดของซัมซุง เพิ่มอารมณ์หนังให้ยิ่งสมจริงหลายอย่าง
- เอฟเฟกต์เสียงเคลื่อนที่ตามวัตถุ (Object Tracking Sound+ (OTS+)) ทำให้เวทีเสียงกว้าง แยกตำแหน่งเสียงต่างๆ ได้
- ระบบปรับเสียงสนทนาให้ดังขึ้นเมื่อมีเสียงรบกวน AVA (Active Voice Amplifier) ปรับเสียงพูดแบบ realtime เร่งเสียงพูดให้แยกจากเสียงรบกวนรอบทีวี แล้วเร่งขึ้น
- สามารถทำงานร่วมกับ Soundbar ของซัมซุงเพื่อให้ลำโพงทีวีทำงานพร้อมซาวนด์บาร์ (Q-symphony) และไลน์อัปเครื่องเสียงที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งรวมถึง Q950T ซึ่งมาพร้อมนวัตกรรมที่ได้รับรางวัลภายในเวที CES 2020
อย่างไรก็ตามในงานนี้ไม่มีการพูดถึง Dolby Vision หรือ Dolby Atmos นะครับ ก็คาดว่าจะรองรับเพียง HDR10+
นวัตกรรมสมาร์ตทีวี
ทีวีของซัมซุงนั้นใช้ระบบปฏิบัติการเป็น Tizen นะครับ ซึ่งในปีนี้ก็มีความสามารถหลายอย่างเพิ่มเข้ามา เช่น
- Multiview แสดงหน้าจอมือถือบนหน้าจอทีวีได้เลย ซึ่งจะเปิดพร้อมๆ กับการดูทีวีหรือรายการอื่นๆ ก็ได้ ซึ่งสามารถใช้กับมือถืออย่าง iPhone หรือ Android รุ่นอื่นๆ ได้ แต่ฟังก์ชัน Tap to connect ที่เอาเครื่องไปแตะจอแล้วเอาภาพมือถือขึ้นเลย จะต้องเป็น Samsung Galaxy
- Digital Butler เพื่อสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ได้ โดยใช้ทีวีเป็นศูนย์กลาง
- รองรับผู้ช่วยดิจิตอลหลายตัวทั้ง Amazon Alexa, Google Assistant และ Samsung Bixby เอง
นอกจากนี้ยังมี Game Mode ที่ดีไซน์มาสำหรับการต่อเครื่องเกมคอนโซลโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถลดการแลคของภาพให้ต่ำกว่า 10 ms ได้ โดยยังสามารถปรับปรุง Contrast ของภาพ มีการจัดการความเบลอของภาพและแก้ไขปัญหา judder หรือปัญหาภาพซ้อนกันเพราะวิดีโอต้นฉบับมีเฟรมเรทไม่ตรงกับอัตราการแสดงภาพพื้นฐานของทีวี และในทีวีบางรุ่นยังสามารถรองรับได้ถึง 120 Hz
ไลฟ์สไตล์ทีวี
ในงานนี้ซัมซุงยังได้อัปเดตไลน์อัปไลฟ์สไตล์ทีวีของซัมซุง คือ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส