วันนี้ (30 เมษายน 2020) Xiaomi หนึ่งแบรนด์สมาร์ตโฟนจากประเทศจีนที่กำลังมาแรงในตลาดระดับโลก ได้จัดอีเวนต์ออนไลน์เปิดตัวสมาร์ตโฟนในตระกูล Redmi Note ที่มีจุดเด่นที่ความคงทน ดีไซน์สวยงาม ประสิทธิภาพการทำงานสูง และราคาที่เอื้อมถึง โดยได้รับความนิยมอย่างมาก และมียอดจำหน่ายทั่วโลกถึง 110 ล้านเครื่องทั่วโลกแล้วในขณะนี้
สำหรับซีรีส์ล่าสุดนี้ คือ Redmi Note 9 ซึ่งมีด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ Redmi Note 9s, Redmi Note 9, Redmi Note 9 Pro
เนื่องจาก Xiaomi ได้เปิดตัว Redmi Note 9s ไปก่อนหน้านี้แล้ว ทาง Xiaomi จึงกล่าวถึง Redmi Note 9 และ Redmi Note 9 Pro เวอร์ชันจำหน่ายทั่วโลกอย่างเป็นทางการ
Redmi Note 9 Pro
Redmi Note 9 Pro มาพร้อมดีไซน์และประสิทธิภาพในระดับเรือธงเช่นเดียวกับคู่แข่งในตลาดอย่าง Samsung Galaxy S20 และ iPhone 11 Pro Max
ดีไซน์
Redmi Note 9 Pro มาพร้อมบอดี 2 โทนสีสะดุดตา ได้แก่ Tropical Green, Interstella Grey และ Glacier White
หน้าจอ IPS LCD แบบ DotDisPlay (มีจุดเล็ก ๆ ซึ่งเป็นส่วนของกล้องหน้า) ขนาดใหญ่ถึง 6.67 นิ้ว ไม่มีส่วนเว้า ทำให้มองได้เต็มตา โดยมีความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล ได้รับการรับรองมาตรฐานการถนอมสายตา TÜV Rheinland ประเทศเยอรมนี และป้องกันรอยขีดข่วนด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและหลังตัวเครื่อง
อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งเซนเซอร์สแกนนิ้วที่ด้านข้างตัวเครื่อง ซึ่งสะดวกต่อการใช้งานเป็นอย่างยิ่ง
กล้อง
Redmi Note 9 Pro มาพร้อมกล้องระดับเรือธง โดยมีสเปกที่น่าสนใจ ดังนี้
- กล้องหลัก : 64 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ขนาด 1/1.72 นิ้ว, รูรับแสง f/1.89, เทคโนโลยี Super Pixel
- กล้อง Ultrawide : 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 119 องศา
- กล้อง Macro : 5 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.4, โฟกัสภาพที่ระยะ 2-10 ซม.
- กล้องเซนเซอร์วัดระยะ : 2 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.4
กล้องระดับ 64 ล้านพิกเซลนี้ สามารถเก็บรายละเอียดภาพได้คมชัดและเป็นธรรมชาติในทุกสภาวะแสง
กล้องของ Remi Note 9 ยังมีโหมด Portrait แบบภาพยนตร์ที่ถ่ายภาพบุคคลเอฟเฟกต์ Bokeh ได้สวยงามและกว้างมากกว่าเดิม และโหมด Macro ที่เก็บรายละเอียดเล็ก ๆ ของภาพได้อย่างน่าทึ่ง
นอกจากนี้ยังมาพร้อมโหมดบันทึกวิดีโอแบบมืออาชีพที่ช่วยในการซูมภาพได้อย่างลื่นไหล, ควบคุมการโฟกัสได้ และรองรับการบันทึกระดับ 4K มีโหมด อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Kaleidoscope เพิ่มลูกเล่นในการบันทึกวิดีโอถึง 6 แบบ
สำหรับกล้องหน้านั้นมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยมีได้รับการติดต้งบนหน้าจอ และมาพร้อมการบันทึกวิดีโอเซลฟีแบบสโลว์โมชัน
ประสิทธิภาพ
Redmi Note 9 Pro ได้รับการติดตั้งชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 720G (8 คอร์) ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 2.3 GHz โดยมาพร้อมเอนจิน Qualcomm AI รุ่นที่ 5 เพื่อช่วยเร่งประสิทธิภาพการเล่นเกม และประหยัดพลังงาน เสริมด้วยชิปกราฟิก Adreno 618 ที่ช่วยยกระดับการเล่นเกมในทุก ๆ ด้าน และรองรับ WiFi แบบ 2×2 MIMO ที่ช่วยให้รับสัญญาณได้ดีขึ้น และครอบคลุมมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมาพร้อมแบตเตอรีขนาดใหญ่ถึง 5,020 mAh (ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 2 วัน) และรองรับการชาร์จไวที่ 30 W ที่สามารถชาร์จได้ 50% ในระยะเวลาไม่ถึง 30 นาที (แถมที่ชาร์จไว 30 W ให้ในกล้องด้วย)
และยังมีเทคโนโลยี Haptic แบบแกน Z ที่จำลองการสั่นของตัวเครื่องได้มากถึง 120 รูปแบบที่ต่างกัน เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสถึงการใช้งานที่แตกต่างออกไปอีก และ NFC สำหรับอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย
ราคา
ด้วยประสิทธิภาพและดีไซน์ระดับเรือธงนี้ Redmi Note 9 Pro ยังมีจุดเด่นที่ราคา ดังนี้
- 6 GB/ 64 GB : 269 เหรียญ (ประมาณ 8,700 บาท)
- 6 GB/ 128 GB : 299 เหรียญ (ประมาณ 9,700 บาท)
Redmi Note 9
Redmi Note 9 เป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางที่น่าสนใจมาก โดยมาพร้อมจอที่คมชัด, กล้องที่ดีเยี่ยม และประสิทธิภาพระดับสูง
ดีไซน์
หน้าจอแบบ DotDisplay ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล ที่ใหญ่มากพอจะเล่นเกมได้อย่างเต็มสายตา โดยตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี คือ Forest Green, Polar White และ Midnight Black
ด้านหลังได้รับการผลิตด้วยวัสดุที่มีความทนทาน และติดตั้งเซนเซอร์สแกนนิ้วมือ
กล้อง
Redmi Note 9 มาพร้อมกล้อง 4 ตัว ประสิทธิภาพสูง ดังนี้
- กล้องหลัก : 48 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ขนาด 1/2 นิ้ว, รูรับแสง f/1.79, เทคโนโลยี Super Pixel
- กล้อง Ultra Wide : 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.2, กว้าง 118 องศา
- กล้องเซนเซอร์วัดระยะ : 2 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.4
- กล้อง Macro : 2 ล้านพิกเซล, ระยะถ่ายภาพที่ 2-10 ซม.
กล้องของ Redmi Note 9 มาพร้อมฟังก์ชันเดียวกับ Redmi Note 9 Pro และมีโหมดสแกนเอกสารที่ใช้งานได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายเป็นอย่างมาก
สำหรับกล้องหน้านั้น ได้รับการติดตั้งบนหน้าจอ โดยมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
ประสิทธิภาพ
Redmi Note 9 ได้รับการติดตั้งชิปเซ็ต MediaTek Helio G85 ที่มีความเร็วสูงสุด 2.0 GHz ซึ่งทำคะแนนทดสอบผ่าน AnTuTu ได้ถึงได้ 205,946 แซงหน้า Redmi Note 8 (ชิปเซ็ต Snapdragon 665) ที่เปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งทำได้ 169,585 คะแนน คิดเป็นประสิทธิภาพสูงขึ้น 21% และแซงหน้า Samsung Galaxy A51 (ชิปเซ็ต Exynos 9611) ด้วย
นอกจากนี้ยังมาพร้อมแบตเตอรีขนาดใหญ่ถึง 5,020 mAh (เท่ากับ Redmi Note 9 Pro) และรองรับการชาร์จไวที่ 18 W (แถมที่ชาร์จไว 18 W ให้ในกล่องด้วย)
ราคา
Redmi Note 9 จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2020 ในราคาดังนี้
- 3 GB/ 64 GB : 199 เหรียญ (ประมาณ 6,500 บาท)
- 4 GB/ 128 GB : 249 เหรียญ (ประมาณ 8,100 บาท)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส