เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ทาง Samsung ก็ได้เชิญเหล่าบล็อกเกอร์ต่าง ๆ เข้าไปร่วมสัมผัสประสบการณ์กันอย่างเต็มรูปแบบกับ Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge กันอย่างเต็มที่ ซึ่งการมาในครั้งนี้ของ Samsung Galaxy รุ่นล่าสุดนี้เรียกได้ว่าอัพเกรดขึ้นมาทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและ Spec ภายในเลยทีเดียวครับ ซึ่งถ้าใครติดตามเมื่อวานที่ Hashtag #GalaxyS6TH และ #GalaxyS6edgeTH ก็จะได้เห็นว่าเราได้ส่งภาพเรียกน้ำย่อยมาให้ชมกันเล็กน้อย ซึ่งวันนี้เราจะมาจัดเต็ม (เท่าที่เวลาจะอำนวย) ให้ทุก ๆ ท่านได้รับชมกันครับว่า น่าซื้อ หรือ น่าเมิน… เอ้ย ไม่ใช่ The RevieWER !!
ภายในงานได้มีการนำเอา Samsung Galaxy S ตั้งแต่รุ่นแรกถึงรุ่น 5 มาจัดแสดงไว้ด้านข้างครับ (คล้ายงานเปิดตัวก่อนหน้านี้)
หลังจากที่ได้สัมผัสครั้งแรก เรียกได้ว่าตัว Samsung Galaxy S6 edge นั้นบางมากครับ บางจนอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมบางได้ขนาดนี้ แถมยังเป็นกระจก Gorilla Glass 4 ที่ถึกกว่า Gorilla Glass 3 2 เท่า (เขาว่ามางั้น) ทั้ง 2 ด้าน เรียกได้ว่างานนี้ไม่ต้องติดกันรอยให้เมื่อยเลยทีเดียว และเขายังว่าอีกว่า ถ้าเราสังเกตด้านหลัง กระจกจะทำการไล่สีของพื้นผิวเครื่อง ทำให้พื้นหลังของเครื่องดูโดดเด่นขึ้นกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา
สังเกตดูดี ๆ จะเห็นว่าเป็นกระจกทั้งแผ่น ไม่ใช่เพียงแค่หน้าจอครับ ทำให้เวลาสัมผัสนั้นไม่รู้สึกว่ามีรอยต่อเลย
แอบเอา Ridge FAB 4G มาเทียบ อิอิ
พื้นหลังเงาแว๊ป
แน่นอนว่าก่อนอื่นเราต้องมาทำการทดสอบประสิทธิภาพของกล้อง Galaxy S6 กันก่อนเลย ซึ่งจากที่ทดสอบเรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก ไม่ว่าจะเป็น Function ถ่ายไว เพียงกดปุ่ม Home 2 ครั้ง ก็เรียกกล้องถ่ายรูปออกมาพร้อมถ่ายได้ทันที แถมยังมี Auto HDR ที่ไม่ว่าจะถ่ายย้อนแสง หน้าของคุณก็จะไม่ดำอีกต่อไป และระบบ auto focus ที่ต่างจากกล้องอื่นตรงที่มันจะทำการ Track โดยตรวจสอบจากสีของจุดที่เรากด ทำให้เราไม่ต้องมากดเพื่อ focus เรื่อย ๆ เหมือนมือถือรุ่นอื่น ๆ ครับ งานนี้จะถ่ายภาพอะไรก็ไม่ต้องกลัวเรื่องจุดโฟกัสเบลอแล้ว 🙂
และการถ่ายกลางคืนที่เรียกได้ว่าเป็นฝันร้ายของกล้องมือถือก็ทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว (แต่ถ้ามืดเกินไปก็จะมี Noise เยอะอยู่ดี)
ภาพถ่ายกลางคืนแบบมืดมาก ๆ ก็ยังสามารถถ่ายออกมาได้ (แต่ Noise เยอะมากตามภาพ)
และที่สำคัญ กล้องหน้าชัดมาก ๆ ครับ ถ่ายออกมาได้ดีเลยทีเดียว
ทดสอบถ่ายกล้องหน้าครับ บอกได้เลยว่าชัดมาก ๆ
และที่สำคัญ Galaxy S6 มี Function ถ่ายรูปมาให้เพียบ เช่นถ้าใครชอบตั้งทุกอย่างเองก็สามารถเลือก mode โปรได้ ซึ่งเราจะสามารถตั้งได้ทั้ง ISO, ค่าชดเชยแสง, รูรับแสง, หรือแม้แต่ Template ที่อยากถ่ายให้ภาพออกมาตามที่เราต้องการ หรือถ้าใครอยากถ่ายภาพเพื่อนำไปโฆษณาขายสินค้า ก็สามารถเลือกโหมด ช็อตเสมือนจริงได้ ซึ่ง Mode นี้จะสามารถถ่ายภาพสิ่งนั้น ๆ แล้วหมุนเพื่อให้ดูมีมิติขึ้นมาได้ เป็นต้น
Mode เพียบ เลือกได้เลยว่าจะถ่ายอะไร 🙂
หลังจากนั้นเราก็ได้มาทดสอบการเล่นเกม ซึ่งเกมที่เขาลงมาให้เราทดสอบก็คือเกม Edge of Tomorrow ซึ่งเป็นเกมแนว FPS บนมือถือนั่นเองครับ โดยเกมนี้เรียกได้ว่าเป็น 1 ในเกมที่กิน Spec เครื่องพอสมควร เพราะภาพ 3 มิติสวยงามมาก แต่พอเล่นแล้วกับไม่มีการกระตุกเลยแม้แต่นิดเดียว สมแล้วที่ได้คะแนน Antutu กว่า 69,000 คะแนน
บอกเลยว่าลื่นมาก ๆ
และแน่นอนว่าไม่เพียงแค่นี้ เพราะทาง Samsung ก็ได้เผยเรื่องระบบการชาร์จมือถือแบบใหม่ที่สามารถชาร์จ 10 นาที ใช้ได้ถึง 4 ชั่วโมง !! (ซึ่งทางเราไม่มีโอกาสได้ทดสอบในส่วนนี้ครับ เลยไม่สามารถบอกได้ว่าจริงขนาดไหน) และมีระบบ Wireless Charging อีกด้วย
ในส่วนของการอ่านลายนิ้วมือ จะเปลี่ยนจากการรูดนิ้วเพื่อปลดล็อค มาเป็นระบบสัมผัสแทน ซึ่งทำให้ปัญหาปลดล็อคไม่ค่อยได้นั้นหมดไปครับ และ Accessories ต่าง ๆ โดยเฉพาะเคสที่ใส่กับ Samsung Galaxy S6 ทั้ง 2 รุ่นนั้นถือว่าทำออกมาได้สวยดีครับ
ซึ่งโดยรวมแล้วเรียกได้ว่า Samsung ทำการบ้านมาดีมาก ๆ สำหรับ Samsung Galaxy S6 และ S6 edge เพราะสามารถดึงเอาความโดดเด่นทั้งภายนอกและภายในออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเลยก็ว่าได้ แต่เสียดายที่ทาง Samsung ยังไม่ได้แจ้งราคาและวันวางจำหน่ายออกมาอย่างเป็นทางการครับ ใครที่มองหามือถือ Android Spec เทพ คุณภาพดี อดใจรอกันได้เลยจ้า 🙂
ภาพแถมจากในงานครับ 🙂