เมื่อกลางเดือนที่แล้วในงาน WWDC ที่ Apple ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ ๆ ออกมา ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์ก็คือ iOS 14 นี่แหละ ที่เรียกว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก “ป๋องเขียว” หรือ “Android” ที่เรารู้จักกันดี มาซะเยอะ
ด้วยความคล้ายคลึง (หรือบางอย่างก็เรียกว่าเหมือนเลยก็ได้นะ) ของฟีเจอร์ที่ออกมาใหม่ใน iOS 14 นี้ จะมีอะไรบ้างนะ ไปดูกันเลย
วิตเจ็ตที่หน้าโฮม (Home Screen Widgets)

อันนี้เรียกได้ว่าผู้ใช้ Android อาจจะคุ้นหน้าคล้ายตากับวิตเจ็ตต่าง ๆ ที่สามารถนำไปว่าไว้ในหน้าโฮมได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถตกแต่งหน้าตาโฮมของผู้ใช้ และเรียกดูสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเข้าตัวแอป
คลังแอป (App Library)
ฟีเจอร์นี้เรียกได้ว่าถูกใจใครหลาย ๆ คน ที่ติดตั้งแอปไว้จำนวนมหาศาล ก่อนหน้านี้เวลาค้นหาเพื่อเรียกใช้ทีก็ต้องไล่ดูใหม่ตั้งแต่ต้น (ในกรณีจำไม่ได้ว่าแอปวางไว้ไหน) แต่ App Library นี้ ก็กลับคล้ายคลึงกับใน Android ที่เป็นลิ้นชักแอป (App Drawer) นั่นเอง ให้ผู้ใช้สามารถหาแอปต่าง ๆ ได้ง่าย โดยแยกเป็นหมวดหมู่ให้ด้วย และยังสามารถแสดงรายชื่อแอปเป็น List View ได้อีกด้วย
การตั้งค่าแอปพื้นฐาน (Default App) สำหรับอีเมลและเบราว์เซอร์
การตั้งแอปพื้นฐานนี้ ชาว Android อาจจะคุ้นตาอย่างในตอนที่เราดาวน์โหลดเบราว์เซอร์มาใหม่ เมื่อเรากดลิงก์ต่าง ๆ ก็จะขึ้นถามว่าจะเปิดด้วยเบราว์เซอร์ตัวไหน ซึ่งเราจะสามารถจำค่าที่เราเลือกได้ให้เป็นแอปพื้นฐานเพื่อง่ายต่อการใช้งานในครั้งถัดไป แต่เบื้องต้น สำหรับ iOS จะสามารถเปลี่ยนแอปพื้นฐานได้เฉพาะเบราว์เซอร์และอีเมลเท่านั้น และตัวแอปที่จะสามารถเปลี่ยนได้จะต้องได้รับการรับรองจาก Apple ด้วย เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
ดีไซน์ “Siri” ที่ไม่บดบังทั้งหน้าจอ

ใน iOS 14 เป็นการปรับดีไซน์ให้ Siri ให้เป็นพอปอัปเล็ก ๆ ไม่กินพื้นที่ทั้งหน้าจอ ไม่รบกวนการเล่นหรือทำงานของผู้ใช้ ก็เหมือนกับ Android ที่มีตัวเลือกให้ผู้ใช้เลือกใช้เช่นกัน
App Clips

ฟีเจอร์ App Clips นี้เอง จะให้ผู้ใช้สามารถใช้แอปต่าง ๆ เพื่อทำธุระที่ใช้เพียงชั่วคราว โดยไม่ต้องดาวน์โหลดทั้งแอปมาได้ ซึ่ง Instant Apps ใน Android ที่เปิดตัวไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ก็ทำงานคล้าย ๆ กัน (แต่ไม่ปังเท่าไหร่นะ เน้นใช้ออนไลน์มากกว่าใช้แบบ ออฟไลน์เหมือน App Clips)
การนำทางปั่นจักรยาน

ฟีเจอร์นี้เราอาจจะคุ้นเคยกันในแอป Google Maps โดย Apple เพิ่งเพิ่มลงไปในแอป Maps ใน iOS 14 เท่านั้น ซึ่งยังใช้ได้เพียงบางที่เท่านั้น
แปลภาษา (Translate)

แอปนี้เองไม่ว่าจะใช้ Apple หรืออะไรก็ตามก็น่าจะคุ้นกันไม่น้อย คล้ายคลึงกับแอป Google Translate นั่นเอง ซึ่งในแอป Translate ของ Apple เองก็ยังจะสามารถแปลภาษาหน้าเว็บไซต์ได้อีกด้วยเหมือนบน Android แต่ยังรองรับเพียงไม่กี่ภาษาเท่านั้น
Picture in Picture
ฟีเจอร์นี้น่าจะถูกใจใครหลาย ๆ คน เพราะจะสามารถเล่นไปดูวิดีโอไปได้ด้วย ซึ่ง Google ได้เปิดตัวไปตั้งแต่ Android 8.0 แล้ว และอันที่จริง Apple ก็ได้มีฟีเจอร์นี้ใน iOS 11 แล้วเช่นกัน แต่เป็นเฉพาะใน iPad อีกทั้งใน FaceTime เราสามารถย่อขนาดให้เราสามารถเล่นอย่างอื่นได้ด้วยในเวลาเดียวกัน
ตรวจสอบ Password
ฟีเจอร์นี้ Google เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ในครั้งนี้ Apple ได้เปิดฟีเจอร์นี้มาให้ผู้ใช้ใน Safari เช่นกัน เตือนผู้ใช้งานหากรหัสผ่านของผู้ใช้เป็นรหัสที่หลุดออกไปแล้วอยู่ในฐานข้อมูลให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่
Back Tap

สุดท้ายฟีเจอร์ Back Tap นี้ ทั้ง Apple และ Google ก็กำลังพัฒนาอยู่ในเวลาเดียวกัน ใน Android 11 ฟีเจอร์ที่ผู้ใช้จะสามารถกำหนดทางลัดเพื่อทำสิ่งต่าง ๆ ได้เพียงแตะด้านหลังของตัวเครื่อง
ที่มา : The Verge
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส