รายงานล่าสุดจากบริษัทวิเคราะห์ตลาด Canalys ระบุว่า ตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกในช่วงไตรมาสที่ 2 (เมษายน – มิถุนายน) ประจำปี 2020 นั้น ได้ปรับตัวลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปี 2019 เนื่อจากวิกฤติ COVID-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบให้เห็นตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมาแล้ว
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสที่ 2 นั้น ได้มีการจำหน่ายสมาร์ตโฟนทั่วโลกไป 284.7 ล้านเครื่อง ซึ่งลดลง 14% จากช่วงเดียวกันเมื่อปี 2019 ที่มียอดจำหน่าย 331.8 ล้านเครื่อง โดยแบรนด์หลักอย่าง Huawei, Samsung, Xiaomi และ OPPO ต่างก็มียอดจำหน่ายลดลง 5%, 30%, 10% และ 16% ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี Apple กลับเป็นแบรนด์เดียวที่มียอดจำหน่ายสมาร์ตโฟนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการเปิดตัว iPhone SE 2020 ที่ส่งผลทำให้สาวก Apple ที่ใช้ iPhone SE รุ่นแรก และ iPhone 5S หรือรุ่นที่เก่ากว่านั้น หันมาซื้อเครื่อง iPhone SE 2020 ที่มีราคาไม่สูงมากนัก แต่ได้รับการติดตั้งชิปเซ็ต A13 Bionic เช่นเดียวกับ iPhone 11
นั่นทำให้ Apple มียอดจำหน่ายในไตรมาสที่ 2 ถึง 45.1 ล้านเครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปี 2019 ที่มียอดจำหน่าย 36 ล้านเครื่อง โดย iPhone SE นั้น มีส่วนแบ่งถึง 28% ของ iPhone ที่วางจำหน่ายทั่วโลก ส่วน iPhone 11 นั้น มีส่วนแบ่งที่ 40% โดยและคาดว่า iPhone SE 2020 จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่า Apple จะเปิดตัว iPhone 12 ในช่วงปลายปี 2020 นี้
นอกจากนี้ Apple ยังมียอดจำหน่ายในตลาดประเทศจีนถึง 7.7 ล้านเครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนด้วย
ข้อมูลอ้างอิง : gsmarena
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส