นับเป็นเวลากว่า 9 ปีแล้วหลังจาก Steve Jobs ได้ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Apple เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2011 โดยมี Tim Cook, COO ได้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่ง CEO ของ Apple แทน
Steve Jobs เสียชีวิตในวันที่ 5 ตุลาคม หรือราว 6 สัปดาห์หลังจากลงจากตำแหน่ง CEO และหลังจาก Apple เปิดตัว iPhone 4s พร้อมผู้ช่วยอัจฉริยะ Siri เพียงวันเดียวด้วยอายุเพียง 56 ปีเท่านั้น การเสียชีวิตของ Jobs ทำให้เกิดความเสียใจเป็นวงกว้างตั้งแต่ครอบครัว เพื่อนร่วมงานใน Apple ไปจนถึงบุคคลที่มีความสำคัญอย่าง Steve Wozniak, Bill Gates และอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา
Tim Cook, CEO คนปัจจุบันของ Apple ได้กล่าวว่า “Apple ได้สูญเสียอัจฉริยะที่มีวิสัยทัศน์ ความคิดสร้างสรรค์ และโลกได้สูญเสียมนุษย์ที่น่าทึ่งคนหนึ่งไป พวกเราที่โชคดีพอที่ได้รู้จักและทำงานร่วมกับ Jobs ได้สูญเสียเพื่อนที่รักยิ่ง และบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรา Jobs ทิ้งไว้เพียงบริษัทบริษัท (หมายถึง Apple) ที่มีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่สร้างขึ้นมาได้ แต่จิตวิญญาณของ Jobs จะเป็นรากฐานของ Apple ตลอดไป”
หลังจาก Steve Jobs เสียชีวิตและ Tim Cook ก้าวขึ้นมาเป็น CEO เรามักจะเห็นผู้คนต่างบอกว่า
หรือนี่จะเป็นสัญญาณของความล่มสลาย
ใครบางคนกล่าว
Apple ภายใต้ CEO, Tim Cook เติบโตขึ้นจนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์ของ Apple จะไม่มีอะไรเทียบเท่า iPhone ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2007 และเป็นสินค้าทำเงินมากที่สุดของบริษัท หากนับในยุคของ Tim Cook หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่น่าทึ่งและทำเงินได้มากมายมหาศาลก็คือ Apple Watch ซึ่งได้รับการยกย่องในแง่ของฟีเจอร์สำคัญที่ช่วยชีวิตคนได้อย่าง ECG, Emergency SOS และระบบตรวจจับการล้ม เป็นต้น
Tim Cook บอกว่า DNA ของ Steve Jobs จะเป็นรากฐานของ Apple ตลอดไป พร้อมกับการตั้งชื่อหอประชุมใน Apple Park ว่า Steve Jobs Theater
อ้างอิง MacRumors
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส