ปีที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาเริ่มเดินเกมรุกหนักโดยแบนบริษัทในสหรัฐฯ ห้ามทำธุรกิจกับ Huawei หมัดแรกที่หนักพอสมควรคือการห้าม Huawei ใช้ Google Services แต่ไม่นานมานี้ Huawei เจอหมัดที่หนักที่สุดคือห้ามบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในการผลิตชิปทำธุรกิจกับ Huawei โดยบริษัทได้ออกมาชี้แจงเองว่า Huawei Mate 40 จะเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นสุดท้ายที่มาพร้อมกับชิป Kirin
ล่าสุดที่พึ่งของ Huawei อย่าง TSMC ก็ไม่สามารถรับออเดอร์ของ Huawei ได้ หรือแม้แต่ MediaTek ก็ไม่สามารถขายชิปประมวลผลให้ Huawei ได้หากรัฐบาลสหรัฐฯไม่อนุญาต ซึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลาที่ลำบากมากของ Huawei
ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 นั้น Huawei สามารถสร้างยอดขายสมาร์ตโฟนแซง Samsung ขึ้นเป็นผู้ผลิตสมาร์ตโฟนอันดับหนึ่งของโลกได้สำเร็จ แต่เนื่องจากปัญหาด้านสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกานั้น Huawei wด้รับผลกระทบโดยตรงด้วยข้อจำกัดต่าง ๆ อาจทำให้ยอดขายทั่วโลกลดลงไปถึง 75% และเกิดปัญหาต่อซัปพลายเออร์รายอื่น ๆ อีกด้วย จุดเด่นอย่างหนึ่งในสมาร์ตโฟนของ Huawei คือการใช้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ Huawei เลือกใช้นั้นอยู่ในมาตรฐานระดับสูง หาก Huawei ไม่สามารถดำเนินต่อโดยอาจทำให้เกิดการชะลอตัวในการพัฒนาเทคโนโลยีได้
Ming Chi-Kuo สายข่าวสุดแม่นเจ้าประจำได้แสดงความคิดเห็นในธุรกิจสมาร์ตโฟนของ Huawei ว่า สถานการณ์อย่างดีที่สุดคือส่วนแบ่งตลาดของ Huawei จะลดลง แต่สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือ Huawei จะเลิกธุรกิจสมาร์ตโฟนไปเลย โดย Kuo เชื่อว่า Huawei จะเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนไปถึง 30% ทำให้แบรนด์อื่น ๆ อย่าง Apple, Oppo, Vivo และ Xiaomi ได้ผลประโยชน์ในช่วงนี้แทน
งานนี้ Huawei อาจจะทำได้เพียงแค่รอสถานการณ์ของสหรัฐอเมริกาว่าจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะหลังการเลือกตั้งว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงประธานาธิบดีหรือไม่
อ้างอิง PhoneArena
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส