ทาง Google เผยสถิติอันน่าตกใจว่า ตั้งแต่ที่ได้เริ่มโครงการ Google Cars มาในปี 2009 นั้น ได้เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้นเพียง 11 ครั้ง และที่สำคัญทุกครั้งนั้นเกิดขึ้นโดยอีกฝ่ายขับมาชนอีกด้วย ถือได้ว่ารถโดยสารไร้คนขับนี่จะเป็น 1 ในนวัตกรรมที่มาช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างแน่นอน
ซึ่งทาง Google ก็ได้อธิบายเกี่ยวกับความสำเร็จของ Google Cars ไว้ว่า
“การขับเคลื่อนด้วยตัวเองนั้นไม่เคยมีซักครั้งที่ได้ก่ออุบัติเหตุขึ้นมา”
Chris Urmson ผู้ดูแลระบบควบคุมและโปรแกรม Google’s self-driving car และเขายังกล่าวต่อว่า “อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนมากจะเกิดขึ้นจากการโดนชนจากข้างหลัง โดยมักจะเกิดที่แยกที่มีไฟจราจร รวมไปถึงระหว่างขับขี่อยู่ก็เช่นกัน ซึ่งรวมอุบัติเหตุทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นเพียง 11 ครั้งนับตั้งแต่เริ่มโปรเจ็คนี้มา และทุกครั้งไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และที่สำคัญ รถขับเคลื่อนอัตโนมัติคันนี้ไม่เคยก่ออุบัติเหตุเลยแม้แต่ครั้งเดียว”
จากภาพคือการคำนวณต่าง ๆ ของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัตินี้ ซึ่งสีม่วงคือรถที่อยู่รอบ ๆ ตัว ส่วนสีฟ้าคือผู้ขับขี่จักรยานที่กำลังมีเส้นทางตัดผ่านเส้นทางตัวรถที่ไป โดยจะมีการคำนวณเส้นทางคร่าว ๆ ของจักรยานคันนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขับออกไปชนนั่นเอง
ภาพจากในห้องโดยสาร (มุมซ้ายล่าง) รวมไปถึงการคำนวณระยะของรถข้างหน้าเพื่อป้องกันการชนท้าย
แถมยังมีระบบตรวจสอบว่ามีการเลี้ยวตัดหน้าหรือไม่อีกด้วย ซึ่งคันไหนที่เลี้ยวผิดธรรมชาติ จะแสดงให้เห็นเป็นป้ายสีเหลืองลอยขึ้นมา (ซึ่งถ้า google ร่วมมือกับตำรวจนี่คงจับกันสนุกน่าดู)
แต่งานนี้ไม่รู้ว่าทาง Google จะอยากลองส่ง Project Self driving car มาทดสอบที่เมืองไทยบ้างไหม เพราะดูจากการขับขี่ (รวมไปถึงถนน) ของบ้านเรานั้นไม่น่าจะมีความพร้อมพอที่จะให้รถยนต์เหล่านี้สามารถขับเคลื่อนเป็นเส้นตรงได้เหมือนที่ทดสอบกันมาอย่างแน่นอน แถมประเทศเรากลัวไฟเหลืองกันซะด้วย เหลืองทีเหยียบซะมิด บอกได้เลยว่าสร้างความท้าทายให้กับวิศวกรของโปรเจ็คนี้อย่างแน่นอน (ว่ารถจะพังวันละกี่รอบ…)
ที่มา: medium | thenextweb