เปิดตัวยังไม่ทันเสร็จดีสำหรับ Huawei Mate 40 Pro ทาง DXOMARK ก็ประกาศเป็นสมาร์ตโฟนกล้องเทพตัวใหม่อันดับหนึ่งประจำตารางเสียแล้ว โดยทำคะแนนรวมไปได้ 136 คะแนน แซงหน้า Xiaomi Mi 10 Ultra ที่ 133 คะแนน

คะแนนรวม 136 คะแนนแบ่งเป็นคะแนนหมวดภาพนิ่ง (Photo) 140 คะแนน หมวดขยาย (Zoom) 88 คะแนน และหมวดภาพเคลื่อนไหว (Video) 116 คะแนน ซึ่งกลายเป็นมือถือที่ทำคะแนนในหมวดภาพนิ่งได้เยอะที่สุดในตอนนี้เลยทีเดียว

สเปกกล้องของ Hauwei Mate 40 Pro
- กล้องหลัก ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ขนาด 1/1.28″ ระยะ 23mm f/1.9
- เลนส์อัลตราไวด์ ความละเอียด 20MP เซนเซอร์ขนาด 1/1.54″ ระยะ 18mm f/1.8 พร้อม PDAF
- เลนส์เทเล ความละเอียด 12MP เซนเซอร์ขนาด 1/3.65″ ระยะ 125mm f/3.4 พร้อม PDAF และกันสั่น OIS
- มี LED Flash
- ถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้สูงสุดที่ 4K 60fps
- มีเซนเซอร์ Multispectral ช่วยวัดสี

ภาพนิ่ง (Photo)
แสง และคอนทราสต์
ในส่วนของภาพนิ่ง Hauwei Mate 40 Pro นั้นได้กลายเป็นสมาร์ตโฟนที่มีคุณภาพในกายถ่ายภาพนิ่งที่ดีที่สุดไปแล้วด้วยคะแนน 140 คะแนน สามารถทำประสิทธิภาพได้ดีในทุกสถานการณ์ และที่สำคัญคือตัวเครื่องสามารถให้ภาพแบบ Wide Dynamic Range ได้ดีมาก ๆ แม้แต่ในสภาวะแสงน้อย ซึ่งเป็นอะไรที่สมาร์ตโฟนรุ่นอื่น ๆ ยังทำได้ดีไม่เท่า และยังควบคุมแสงได้ดีเมื่อถ่ายภาพย้อนแสง

สีของภาพ
เรื่องของคุณภาพสีนั้นได้คะแนนสูงมาก สามารถทำ White Balance ได้ตรง ในทุก ๆ สถานการณ์ ภาพถ่ายที่ได้ให้สีที่สดใส และการถ่ายในพื้นที่ร่มให้สีแสงที่ดูเป็นธรรมชาติ แต่บางครั้งยังให้สีของภาพที่ดูสดเกินไป จนทำให้ผิวของบุคคลดูไม่เป็นธรรมชาติ

ระบบโฟกัส
Huawei Mate 40 Pro นั้นมีระบบโฟกัสที่แม่นยำมาก และจับแน่นในทุกสถานการณ์ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าได้รับการปรับปรุงขึ้นมากเมื่อเทียบกับ Huawei P40 Pro ที่มีปัญหาโฟกัสช้าเมื่อใช้โหมด HDR ตอนแสงจัด และยังมีปัญหาในเรื่องการเก็บค่าความตื้นลึกอยู่บ้าง

Texture และ Noise
Huawei Mate 40 Pro สามารถทำได้ดีในส่วนของ texture และการจัดการ noise ซึ่งสามารถให้รายละเอียดของภาพได้ดีมาก ๆ ในทุกระดับแสงของสภาพแวดล้อม ถึงแม้จะเสียรายละเอียดไปบ้างเมื่อถ่ายในพื้นที่แสงน้อย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของ Xiaomi Mi 10 Ultra ที่ทำได้ดีกว่านิดนึงในส่วนนี้

Artifacts ของภาพ
ในส่วนนี้กล้องของ Huawei Mate 40 Pro สามารถจัดการเรื่อง artifacts ได้ในระดับกลาง ยังพอมี artifacts ให้พบเห็นบ้าง ทั้งรอยหยัก และสีที่ผิดเพี้ยน รวมถึงขอบภาพลอย และวงภาพจากขอบของวัตถุ

ภาพถ่ายกลางคืน
เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่สามารถถ่ายภาพในสถานการณ์แสงน้อยอย่างตอนกลางคืนที่ดีมาก ๆ เครื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ ให้ความสว่าง และ Dynamic Range ที่ดี ซึ่งในบางสถานการณ์อย่างในภาพด้านล่าง เมื่อเทียบกับ Xiamo Mi 10 Ultra แล้ว ถึงจะมืดกว่า แต่ก็ให้รายละเอียดในช่วง Highlight ที่สว่าง ๆ ที่ดีกว่า ทำให้รวม ๆ แล้วดูเป็นภาพที่ดีกว่า แม้จะมืดกว่าก็ตาม

โบเก้
มาพูดถึงการถ่ายภาพบุคคล และการละลายหลังด้วยซอฟต์แวร์กันบ้าง Huawei Mate 40 Pro นั้นสามารถจำลองการละลายหลังได้ดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ เนื่องจากการรับรู้ส่วนตื่นลึกได้ดี แม้แต่ส่วนของเส้นผมที่ปกติจะมีปัญหากันในรุ่นอื่น ๆ แต่กับ Hauwei Mate 40 Pro แล้วยังทำได้ดี

ภาพในช่องมองภาพ
อันนี้น่าจะเป็นหนึ่งในจุดด้อยเพียงไม่กี่อย่างของเครื่องนี้เลย จากภาพด้านล่างที่เราเห็น ภาพที่เห็นในกล่อง View Finder นั้นมีความแตกต่างจากภาพที่ประมวลผลออกมาแล้วอย่างมาก ซึ่งก็เป็นเพราะตัวเครื่องไม่มีการ process ในส่วนของ HDR ในช่องมองภาพนั่นเอง

ภาพขยาย (Zoom)
Huawei Mate 40 Pro สามารถทำคะแนนในส่วนของภาพขยายได้ถึง 88 คะแนนกับติดอันดับท็อปสามในชาร์ต หลังจากมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้คะแนนใหม่ ที่ยังให้รายละเอียดของภาพที่ดีในเลนส์ซูม ด้วยระบบอัลกอริทึม super-resolution แต่ยังพบเจอปัญหาโฟกัสไม่เข้าบ้างที่ต้องแก้ด้วยการซูมออก แล้วซูมเข้าไปใหม่เป็นการรีเซ็ต (ซึ่งน่าจะสามารถแก้ได้ด้วยการอัปเดตซอฟต์แวร์ในภายหลัง)

ในส่วนของเลนส์ไวด์มีคุณภาพของภาพที่ดี จัดการเรื่อง noise ของภาพได้ดีเยี่ยม มีรายละเอียดของภาพ และ Dynamic Range ที่ดี แต่ยังแพ้ Xiaomi Mi 10 Ultra ที่ใช้ระยะ 12mm ที่สามารถเก็บองค์ประกอบของภาพได้มากกว่า เมื่อเทียบกับระยะ 18mm บน Huawei Mate 40 Pro

ภาพเคลื่อนไหว (Video)
Huawei Mate 40 Pro นั้นกลายเป็นสมาร์ตโฟนที่มีคุณภาพในการถ่ายภาพเคลื่อนไหวที่ดีที่สุดในชาร์ต ด้วยคะแนน 116 คะแนน ยังให้สีสันของภาพที่ดี ระบบวัดแสงทำงานได้แม่นยำมาก สามารถปรับระดับของแสงแบบกระทันหันได้ลื่นไหล การถ่ายในความละเอียด 4K ก็ให้รายละเอียดของภาพได้ดีมาก และยังจัดการเรื่อง Noise ได้ดีเหมือนเดิมในทุกสถานการณ์ เช่นเดียวกับภาพนิ่ง
ในส่วนของระบบ Auto Focus ในภาพเคลื่อนไหวก็ยังทำงานได้ดีมาก ๆ ทั้งรวดเร็ว และลื่นไหลในทุกสถานการณ์ และมีการโฟกัสที่แม่นยำไม่หลุดง่าย ๆ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส