ในปีนี้ Huawei เปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ทั้งหมด 4 โมเดล ได้แก่ Huawei Mate 40, Huawei Mate 40 Pro, Huawei Mate 40 Pro+ และ Huawei Mate 40 Porsche Design ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษ (อ่านสเปก Huawei Mate 40 Pro และ Pro+) ออกมาเป็นที่เรียบร้อยครับ
Huawei Mate 40
Huawei Mate 40 เป็นน้องเล็กสุดของไลน์นี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็ก แต่สเปกก็ไม่ธรรมดาเลยครับ
- หน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1080×2376 พิกเซล รีเฟรชเรตหน้าจอ 90Hz ดีไซน์เจาะรูบนหน้าจอ กล้องหน้าตัวเดียว
- ใช้ชิปประมวลผล Kirin 9000 รองรับการเชื่อมต่อ 5G ภายในตัว
- แรม 8GB ความจุภายในเครื่อง 128GB หรือ 256GB
- กล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว ประกอบไปด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.28 นิ้ว
- กล้องซูมแบบ Telephoto 3x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- กล้องซูมแบบ Optical 5x
- กล้องเลนส์มุมกว้าง Ultra-wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าตัวเดียวความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- แบตเตอรี 4,200 mAh รองรับชาร์จไว 40W
- ราคา 899 ยูโร หรือประมาณ 33,300 บาท
Huawei Mate 40 RS
Huawei Mate 40 RS หรือ Huawei Mate 40 ที่รับการร่วมมือออกแบบกับ Porsche Design แบรนด์รถยนต์หรูระดับโลก จะมีสเปกเดียวกันกับ Huawei Mate 40 Pro+ ดังนี้
- หน้าจอ OLED ขนาด 6.76 นิ้ว ความละเอียด 1,344 x 2,772 พิกเซล รีเฟรชเรตหน้าจออยู่ที่ 90Hz ขอบจอโค้ง 88 องศา ดีไซน์หน้าจอแบบเจาะรู
- ใช้ชิปประมวลผล Kirin 9000 ผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี 5nm พร้อมโมเด็ม 5G ภายในตัว
- แรม 12GB ความจุภายในเครื่อง 256GB
- กล้องหลังดีไซน์วงกลมวงแหวนทั้งหมด 4 ตัว ประกอบไปด้วย
- กล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ขนาด 1/1.28 นิ้ว
- กล้องเลนส์มุมกว้าง Ultra-wide ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
- กล้องซูม 3x ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
- กล้องซูม Optical 17x
- กล้อง ToF
- ระบบความปลอดภัย สแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ และสแกนใบหน้าแบบ 3D
- แบตเตอรีความจุ 4,400 mAh รองรับชาร์จไวแบบมีสาย 66W ชาร์จไร้สาย 50W
- ลำโพงคู่สองตัว Bass มากกว่าเดิม 150%
- กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68
จุดแตกต่างคือ Huawei Mate 40 RS มีเซนเซอร์สำหรับตรวจจับอุณหภูมิที่ด้านหลังของกล้อง สามารถจับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20 ถึง 100 องศาเซลเซียส และมีตัวเลือกความจุ 512GB มาให้ด้วย
และที่สำคัญดีไซน์ของตัวเครื่องนั้นได้รับการออกแบบร่วมกับ Porsche Design กล้องหลังสุดแนวทรง 8 เหลี่ยมนี่เองครับ ในส่วนของราคานั้นอยู่ที่ 2,295 ยูโร หรือประมาณ 85,000 บาทครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส