เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โกโปรเพิ่งเปิดตัว GoPro Hero4 และ GoPro Hero ไปครบสายนะครับ ซึ่งตัวเริ่มต้นอย่าง Hero นั้นราคาแค่ 4,999 บาท ก็ทำให้สาวกกล้องโกโปรงบน้อยได้จัดหามาใช้กัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปตลาดกล้องสปอร์ตมีการแข่งขันกันสูงมาก ทำให้ GoPro ต้องส่ง Hero+ กล้องรุ่นคั่นกลางระหว่าง GoPro Hero กับ Hero4 Silver ออกมา
GoPro Hero+ จัดเป็นกล้องระดับ Comsumer เหมือนกับ Hero นะครับ ไม่ได้เป็นกล้องระดับ Professional เหมือน Hero 4 โดยจุดที่แตกต่างกันระหว่าง Hero4 Silver, Hero+ และ Hero มีดังนี้
- ความกว้างของเลนส์
- Hero4 Silver : Ultra Wide, Medium, Narrow
- Hero+ : Ultra Wide
- Hero : Ultra Wide
- คุณภาพวิดีโอสูงสุด
- Hero4 Silver : 4K 15 fps, 2.7K 30 fps, 1440p 30 fps, 1080p 60 fps
- Hero+ : 1080p 60 fps
- Hero : 1080p 30 fps
- ความละเอียดภาพนิ่ง
- Hero4 Silver : 12 MP
- Hero+ : 8 MP
- Hero : 5 MP
- ความเร็วในถ่ายภาพนิ่ง
- Hero4 Silver : 30 ภาพใน 1 วินาที
- Hero+ : 10 ภาพใน 2 วินาที
- Hero : 10 ภาพใน 2 วินาที
- การเชื่อมต่อไร้สาย
- Hero4 Silver : Wifi + Bluetooth
- Hero+ : Wifi + Bluetooth
- Hero : ไม่มี
- Protune (ฟีเจอร์ตกแต่งภาพ)
- Hero4 Silver : มี
- Hero+ : ไม่มี
- Hero : ไม่มี
- ถ่าย Time Lapse Video
- Hero4 Silver : ได้
- Hero+ : ไม่ได้
- Hero : ไม่ได้
- หน้าจอสัมผัส
- Hero4 Silver : มี
- Hero+ : มี
- Hero : ไม่มีจอ
- เคสกันน้ำ
- Hero4 Silver : ถอดได้
- Hero+ : ถอดไม่ได้
- Hero : ถอดไม่ได้
- ราคา
- Hero4 Silver : $399.99 (ราคาไทย 14,800 บาท)
- Hero+ : $299.99 (ราคาไทยยังไม่ออก คาดว่าขายราวๆ 11,000 บาท)
- Hero : $129.99 (ราคาไทย 4,999 บาท)
ระดับราคาของ Hero+ นั้นขายในราคาเดียวกับ Hero3+ Silver ตอนนี้นะครับ สรุปความแตกต่างเด่นๆ ของ Hero+ กับ Hero คือเรื่องจอภาพ คุณภาพภาพนิ่งและวิดีโอที่ถ่ายได้ละเอียดขึ้น ก็ลองช่างใจดูว่าราคาที่ต่างกัน $170 หรือราว 5,700 บาทจากรุ่น Hero มันโอเคสำหรับความต้องการของคุณไหม หรือว่าตัดใจเล่น SJ หรือ Xiaomi ไปเลยดี
ส่วนวันวางขายและราคาในไทย ถ้าเว็บแบไต๋ทราบข้อมูลจะเสนอให้รู้กันครับ