ในช่วงนี้ของทุกปี ก็จะเป็นเวลาประจำที่ HUAWEI ค่ายดอกไม้แดงแห่งแดนมังกร จะเจิดจรัสในแวดวงมือถืออีกครั้ง พร้อมกับข่าวเปิดตัว Mate-Series มือถือระดับเรือธงที่การันตีชิปเซ็ตที่ดีที่สุดของค่าย
และปีนี้ก็เป็นคิวของ Huawei Mate 40 Pro 5G มือถือกล้องโหดที่ฟาดคะแนนกล้องหลังไป 136 คะแนน กล้องหน้า 106 คะแนน ครองตำแหน่งมือถือกล้องหลังและกล้องหน้าดีที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของ DXOMARK พร้อมกับ Kirin 9000 5G ชิปเซ็ตที่พัฒนาขึ้นมาเองตัวแรกของค่าย ในค่าตัว 34,990 บาท
สเปกของ Huawei Mate 40 Pro 5G
- ราคา 34,990 บาท
- หน้าจอ OLED ขนาด 6.76 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ความลื่น 90Hz
- ชิปเซ็ตKirin 9000 5G
- ชิปเซ็ต 5 นาโนเมตร ตัวแรกที่ Huawei พัฒนาขึ้นมาเอง
- รองรับ 5G ในไทย ใส่ซิมแล้วใช้ได้เลย
- มี GPU มากถึง 24 Core มากเป็นอันดับหนึ่งของโลก
- แรม 8GB + ความจุ 256GB
- แบตเตอรี่ 4400mAh
- รองรับชาร์จไว ผ่านสาย 60W และ ไร้สาย 50W
- กล้องหลัง 50+20+12MP (คะแนนกล้องหลัง ดีที่สุดในโลก)
- กล้องหน้ามุมกว้าง 100 องศา 13MP (คะแนนกล้องหน้า ดีที่สุดในโลก)
- มีกล้อง 3D TOF ไว้จับความลึก ทำเอฟเฟค และสั่งงานด้วยมือ
- ระบบ Android 10 + EMUI 11
- ยังไม่มี Google Play Store แต่โหลดแอปผ่าน Huawei Gallery ได้
- กันน้ำกันฝุ่น IP68 (สูงสุดในตลาด)
- มีสองสี Mystic Silver และ Black
ด้านดีไซน์ครั้งนี้ Huawei Mate 40 Pro 5G มาพร้อมฝาหลังวัสดุ Nano-Tech Ceramic ที่มีความเงางามและวิ้งวับเหมือนเพชรพลอย แถมยังมีความแข็งแกร่งระดับพลอย Sapphire เลยครับ (แข็งขนาดนี้น่าจับไปทำ Drop Test) สำหรับตัวเครื่องมีสีให้เลือก 2 สีคือ Mystic Silver และ Black
กล้องหลังมี Space Ring Design วางกล้องตามแนวเส้นวงกลมครับ แล้วเว้นพื้นที่กลางวงกลมเป็นโลโก้ Leica เก๋ ๆ ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ (รุ่นก่อนหน้าใช้ Halo Ring Design รวมกล้องอยู่ในวงกลม) เรื่องการกันน้ำกันฝุ่นก็เป็น IP68 กันได้ดีที่สุดในตลาด ลงน้ำได้ 1.5 เมตร นาน 30 นาที (แต่ต้องเป็นน้ำสะอาด) ส่วนลำโพงก็เป็นแบบคู่ ที่ปรับแต่งเสียงเบสให้แน่นกว่าเดิม
ส่วนจอก็เป็น Flex OLED เทโค้ง 88 องศา ขนาด 6.76 นิ้ว ความละเอียด FHD+ คู่กับความลื่น 90Hz ครับ น่าสงสัยใช่ไหมว่าทำไมถึงไม่เป็นจอ 120Hz ทาง Huawei ก็อธิบายให้ฟังว่าเขาได้วิจัยการตลาดมาแล้ว จอ 90Hz เพียงพอกับการใช้งานแล้ว และยังใช้แบตน้อยกว่า ทำให้แบตอยู่ได้แบบเต็มวัน
เรื่องแบตเตอรี่ Huawei Mate 40 Pro 5G ก็มีมาให้ 4,400 mAh ซึ่งถือว่าเยอะแล้ว แต่จุดที่น่าสนใจคือ Huawei เคลมไว้ว่าแบตอยู่ได้สูงสุดถึง 9.7 ชั่วโมงครับ และยังรองรับการชาร์จไวผ่านสาย 60W ส่วนไร้สายก็เป็น 50W ถือว่าสูงเท่าที่มือถือยุคนี้จะทำได้
เรื่องสเปกภายใน Huawei ก็จัดชิปเซ็ตระดับเรือธง Kirin 9000 5G ที่พัฒนาขึ้นมาเอง ความเด็ดเป็นชิปเซ็ต 5 นาโนเมตร (เล็กมาก) ที่มี 5G SoC อธิบายง่าย ๆ คือ ใส่โมเดม 5G ใว้ในชิปเลย (ผลทดสอบอยู่ในคลิปด้านบนนะ) ส่วนประสิทธิภาพเอง Huawei ก็เคลมว่า Kirin 9000 ในภาพรวมนั้นแรงกว่า ประมวลผลภาพดีกว่า ประหยัดไฟฟว่า Snapdragon 865+ (ผลทดสอบจาก Huawei)
นอกจากนี้ยังเคลมด้วยว่า AI ในชิปจะเรียนรู้และปรับแต่งความลื่นไหลให้ใกล้กับตอนซื้อเครื่องใหม่ ตลอดระยะเวลา 3 ปีครับ
มาถึงจุดเด่น จุดขายของ Huawei Mate 40 Pro 5G อย่างเรื่องคุณภาพของกล้องกันบ้างครับ ต้องบอกเลยว่ารุ่นนี้เขาฟาดหนักจริง ๆ กวาดคะแนนจาก DXOMARK จนกลายเป็นมือถือที่มีกล้องหน้าและกล้องหลังดีที่สุดในโลก
ซึ่งกล้องหลังในรุ่นนี้ ก็ยังคงมาพร้อมกับชื่อของตำนานแห่งกล้องฟิล์มที่ยังมีลมหายใจ Leica พร้อมกับอัปไซซ์เซนเซอร์กล้องหลัก RYYB ความละเอียด 50MP เป็น 1/1.28″ ครับ เรื่องการถ่ายกลางคืนให้เหมือนถ่ายกลางวัน คงไม่ต้องพูดถึงเด็ดแน่นอน สเปกกล้องอื่น ๆ ก็มีกล้องมุมกว้าง 100 องศา ความละเอียด 20MP และกล้องซูม Periscope ความละเอียด 12MP ที่ซูมแบบออฟติกคอลได้ 5 เท่า แบบดิจิทัลสูงสุด 50 เท่า ส่วนกล้องหน้าก็มีความละเอียด 13MP ที่สามารถถ่ายสโลโมชัน และถ่ายแบบ Dual Ultra-Wide พร้อมกันทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง
พูดถึงเรื่องระบบปฏิบัติการกันบ้าง Huawei Mate 40 Pro 5G ก็ยังคงใช้ Android 10 ที่ครอบทับอีกชั้นด้วย EMUI 11 ครับ ยังไม่ได้ใช้ Harmony OS ที่ทางค่ายกำลังพัฒนาอยู่ หลายคนคงสงสัยว่าตอนนี้มี Google Services หรือยัง คำตอบคือ “ยังไม่มี” แต่ Huawei Gallery ก็ทดแทนกันได้ครับ แอปฯ สำคัญๆ อย่างพวกแอปฯ ธนาคารก็มีให้โหลดครับ
สุดท้ายเป็นเรื่องของโปรโมชัน ถ้าใครซื้อ Hauwei Mate 40 Pro 5G ผ่านทางหน้าร้าน HUAWEI Experience Store ทุกสาขา และเว็บไซต์ HUAWEI Online Store โฉมใหม่ รวมถึงร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 3 – 31 ธันวาคม 2563
ก็รับของแถมคุณมูลค่ารวม 7,970 บาทไปเลย ได้แก่ ปากกา HUAWEI M-Pen 2, เคสไฟวงแหวน HUAWEI Ring Light Case และแท่นชาร์จเร็วไร้สาย HUAWEI SuperChargeTM Wireless Charger Stand พร้อมบริการมูลค่า 1,619 บาท อันได้แก่ บริการซ่อมบำรุงถึงบ้าน (Door to Door service), บริการบำรุงรักษาเครื่อง 2 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี, HUAWEI CLOUD STORAGE 5GB ตลอดชีพ + 50GB ให้ใช้ภายในระยะเวลา 1 ปี รวมถึงฟรีค่าใช้บริการ HUAWEI VDO 1 เดือน และเช่าหนังฟรี 5 เรื่องใน HUAWEI Movie Pass
นอกจากนี้ถ้าใครซื้อผ่าน 3 ค่ายผู้ให้บริการพร้อมผูกโปรฯ ราคาเครื่องจะเริ่มต้นที่ 14,990 บาทครับ แถมมีของแถม 3 อย่าง มูลค่า 7,970 บาทให้ด้วยนะครับ น่าสนใจอยู่น้า อาจจะมีรายละเอียดเพิ่มเติม ติดตามดูที่เพจ HuaweimobileTH ได้เลยครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส