Michael Steeber จากเว็บไซต์ 9to5Mac ได้รายงานว่า Apple ได้ปิดสโตร์ทั้งหมดในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ลงเป็นการชั่วคราว รวมถึงสโตร์ในเม็กซิโก จำนวน 2 แห่ง, บราซิล จำนวน 2 แห่ง และอีก 16 แห่ง ในสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ Michael Steeber ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าหากรวมสโตร์ในเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ที่ปิดไปเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยแล้ว ก็รวมเป็นสโตร์เกือบ 100 แห่ง ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 5 ของสถานที่ตั้งสโตร์ของ Apple ทั่วโลก ได้ถูกปิดชั่วคราว
การปิดสโตร์ดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเริ่มใช้ระบบแจ้งเตือนฉุกเฉินในเขตอ่าวซานฟรานซิสโก (Bay Area) อีกทั้งนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ก็ได้ดำเนินการล็อกดาวน์กรุงลอนดอนเป็นการฉุกเฉิน เนื่องวิกฤติ COVID-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นด้วย
สโตร์ทุกแห่งที่ Apple จะปิดชั่วคราวสหรัฐอเมริกาภายในสัปดาห์นี้ มีดังนี้
- รัฐแคลิฟอร์เนีย จำนวน 53 แห่ง
- รัฐเทนเนสซี จำนวน 4 แห่ง
- รัฐมินนิโซตา จำนวน 3 แห่ง
- รัฐโอคลาโฮมา จำนวน 2 แห่ง
- เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน จำนวน 1 แห่ง
- เขตแองเคอเรจ ในรัฐอะแลสกา จำนวน 1 แห่ง
- เมืองโอมาฮอ รัฐเนแบรสกา จำนวน 1 แห่ง
- เมืองอัลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโก จำนวน 1 แห่ง
สำหรับสโตร์ในสหราชอาณาจักร, เม็กซิโก และบราซิล จะปิดตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2020
ข้อมูลอ้างอิง : theverge
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส