ปี 2020 ที่ผ่านมาเป็นปีที่สมาร์ตโฟนก้าวเข้าสู่นวัตกรรมใหม่ “หน้าจอพับได้” นำโดย Samsung และ Huawei รองลงมาคือมีการนำเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาใส่ใต้หน้าจอกันมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่ในสมาร์ตโฟนระดับกลางก็ยังได้เห็นกัน สำหรับปี 2021 นี้ เราน่าจะได้เห็นนวัตกรรมอะไรในสมาร์ตโฟนบ้าง มาดูกันครับ

กล้องหน้าใต้หน้าจอ

ปีที่แล้วมีสมาร์ตโฟนเพียงรุ่นเดียวในโลกที่เปิดตัวมาพร้อมกับดีไซน์กล้องใต้หน้าจอนั่นก็คือ ZTE Axon 20 5G จุดเด่นของรุ่นนี้ก็ตามที่กล่าวไว้คือเทคโนโลยีการซ่อนกล้องใต้หน้าจอโดยมีชั้นเลเยอร์บาง ๆ ครอบทับกล้องหน้าอีกที แต่เนื่องจากยังเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่ก็ดูเหมือนจะมีจุดที่อาจสร้างความรำคาญใจอยู่หลายอย่าง แต่เชื่อว่าในปีนี้เราจะได้เห็นการพัฒนาด้านเทคนิคการซ่อนกล้องหน้าจอที่ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน

Hyperfast Charge

ปีที่่ผ่านมา ความแรงของชาร์จไวอยู่ที่ 50-60W แต่ Xiaomi ได้เปิดตัวระบบชาร์จไว 100W ในชื่อว่า Mi Charge Turbo ชาร์จแบตเตอรีเต็มได้ภายใน 10 นาที โดยสมาร์ตโฟนรุ่นพิเศษของ Xiaomi อย่าง Mi 10 Ultra ก็รองรับชาร์จไวมากถึง 120W แล้วด้วย อย่างไรก็ตาม Xiaomi ไม่ใช่แบรนด์เดียวที่ทำชาร์จไว 100W ออกมาสู่ตลาด

Samsung เองก็ได้เปิดตัวชาร์จ PD กำลังไฟสูงถึง 100W ออกมาเช่นเดียวกัน ซึ่ง Unikorn Semiconductor จะเพิ่มการผลิตชิป GaN-on-Si เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบชาร์จจาก 60W เป็น 100W นั่นหมายความว่าในปีนี้เราน่าจะได้เห็นชาร์จไว 100W ออกมากันมากขึ้นเรื่อย ๆ ล่ะครับ

หน้าจอที่ล้ำกว่าเดิม

นอกจากปีนี้เราจะได้เห็นสมาร์ตโฟนพับหน้าจอได้, กล้องใต้หน้าจอแล้ว เราจะได้เห็นรูปแบบหน้าจอแบบใหม่ ‘ที่ม้วนได้’ และ ‘ซ่อมแซมตัวเองได้’ ในปีนี้ด้วย

อันที่จริง ความท้าทายที่เหนือกว่าจอที่ยืดหด หรือพับได้คือ ความแข็งแรงของหน้าจอ การที่มีหน้าจอพับได้หรือจอม้วนได้มันก็เจ๋งดีเหมือนกัน แต่การใช้จอลักษณะนี้นาน ๆ อาจสร้างความเสียหายให้กับจอได้ โดยเฉพาะบริเวณบานพับของจอพับได้ที่อาจได้รับความเสียหายง่ายกว่าจุดอื่น อย่าง Galaxy Z Fold 2 ซึ่งหน้าจอได้รับความเสียหายง่ายกว่าสมาร์ตโฟนทั่ว ๆ ไปเพื่อให้สามารถใช้งานแบบพับได้นั่นเอง

อันที่จริงแนวคิดหน้าจอซ่อมแซมตัวเองได้นั้น ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีมานานแล้ว หากใครยังจำได้ LG ได้เปิดตัว LG G Flex ตั้งแต่ปี 2013 มีความสามารถพิเศษคือมีด้านหลังเครื่องที่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งหากเทคโนโลยีซ่อมแซมตัวเองได้ถูกนำมาใช้งานจริงก็น่าจะเห็นการพัฒนาหน้าจอที่ก้าวกระโดดมากกว่านี้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้เราอาจได้เห็นสมาร์ตโฟนที่มีหน้าจอม้วนหรือยืด-หด ได้ แบบ OPPO X 2021 หรือ LG Rollable เปิดตัวมาในปีนี้เหมือนกัน (ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด)

ประสบการณ์ไร้พอร์ต

แบบที่เราเห็นในทุกวันนี้ สมาร์ตโฟนกำลังมีพอร์ตที่น้อยลงเรื่อย ๆ เริ่มจาก iPhone ที่ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., อะแดปเตอร์และหูฟังที่ไม่ได้แถมมาในกล่อง สมาร์ตโฟน Samsung ที่ไม่รองรับ microSD แล้ว ที่เราอาจได้เห็นต่อไปคือ ‘ไม่มีพอร์ตอะไรหลงเหลือ’

ช่องที่เราใช้อยู่ในทุกวันนี้แทบจะมีเทคโนโลยีต่าง ๆ มารองรับกันหมดแล้ว เช่น ช่องเสียบหูฟังก็ทดแทนด้วยหูฟัง Bluetooth, ช่องใส่ซิมก็อาศัย eSim เข้ามาแทน, ชาร์จผ่านระบบชาร์จไร้สายหรือ Wireless Charge อันที่จริง Meizu เคยเปิดตัวสมาร์ตโฟนที่ไม่มีพอร์ตมาก่อนแล้วกับ Meizu Zero ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2019

มีข้อมูลจาก Jon Prosser บอกว่า มีโอกาส 70% ที่ iPhone 13 จะเปิดตัวแบบไม่มีพอร์ตอะไรเลย ก็ต้องรอดูกันครับว่าจะเป็นจริงหรือไม่

หน้าจอ microLED

อันที่จริงมีรายงานว่า iPhone จะหันมาใช้หน้าจอ microLED ตั้งแต่ราวปี 2016 ซึ่งนี่ก็ผ่านมา 5 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีสมาร์ตโฟนแบรนด์ไหนแม้แต่แบรนด์เดียวที่ใช้หน้าจอชนิดนี้

microLED เป็นหน้าจอที่คล้ายกับ OLED แต่ไม่มีการเบิร์น อายุการใช้งานนานกว่า และมีหน้าจอที่สว่างกว่าด้วย มีข่าวว่าจะถูกนำมาใช้กับ iPad Pro และ MacBook Pro เหมือนกัน ก็ต้องรอลุ้นอีกทีว่าเราจะได้เห็นหน้าจอ microLED กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ในปีนี้รึเปล่า

อ้างอิง PhoneArena

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส