มาเลเซียประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของเรา เตรียมผลักดันนำเทคโนโลยี RFID มาใช้เพื่อการติดตามรถยนต์ภายในประเทศ ตั้งเป้าครอบคลุมรถยนต์ทุกคันได้ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า
แท็ก RFID ที่จะนำมาใช้ในงานนี้ จะถูกติดผนึกมากับแผ่นสติ๊กเกอร์ที่ผู้เสียภาษีรถยนต์ประจำปีจะได้รับเอาไว้แปะกระจกหน้ารถ (แบบเดียวกับบ้านเรา) ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถตรวจหารถยนต์โดยอาศัยแท็กดังกล่าวด้วยอุปกรณ์ตรวจหาแท็ก RFID โดยเฉพาะ และหากมีใครที่พยายามจะแกะแท็ก RFID นี้ออกจากสติ๊กเกอร์หรือทำลายมัน มันก็จะส่งสัญญาณเพื่อแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ได้เช่นกัน
วัตถุประสงค์ของแผนงานนี้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้การติดตามเส้นทางการวิ่งของรถยนต์ซึ่งอาจถูกนำไปใช้เพื่อการกระทำผิดกฎหมาย อีกทางหนึ่งก็เพื่อใช้ประโยชน์ในการสัญจรบนทางหลวงโดยจะมีระบบตัดค่าผ่านทางอัตโนมัติอ้างอิงจากแท็ก RFID ของรถแต่ละคันที่ผ่านด่าน (ซึ่งก็คล้ายๆ กับ Easy Pass สำหรับทางด่วนบ้านเรา) และมีความเป็นไปได้ที่จะต่อยอดเพื่อนำไปใช้วิเคราะห์สภาพการจราจรบนท้องถนนได้แบบ real time ในอนาคต
ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้มาตรการติดแท็ก RFID นี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้กับรถยนต์ทุกคันที่ผ่านเข้าออกด่านชายแดนที่ยะโฮร์ก่อนเป็นลำดับแรก ไม่ว่าจะเป็นรถของชาวมาเลเซียเอง หรือของชาวต่างชาติก็ตาม และจะค่อยๆ ขยายผลบังคับใช้กับรถยนต์ที่ผ่านด่านชายแดนต่อกับไทย, บรูไน และอินโดนีเซีย ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า ก่อนที่จะมีการบังคับติดแท็ก RFID กับรถยนต์ภายในประเทศที่เสียภาษีและได้สติ๊กเกอร์ใหม่ไปจนครบทั้งหมดภายในปี 2018 ซึ่งคาดว่าในตอนนั้นจะมีรถยนต์ในมาเลเซียมากถึง 28 ล้านคัน
ใครที่จะมีเหตุขับรถเดินทางไปมาเลเซียก็พึงเตรียมตัวให้พร้อมกับมาตรการนี้
ที่มา – The Sun Daily via Engadget