จากประเด็นดราม่าเรื่อง Samsung Galaxy Note 5 ที่กำลังร้อนแรงไปทั่วโลก รวมถึงในไทยด้วย ที่เมื่อนำปากกา S-Pen ใส่กลับด้านแล้วจะดึงไม่ออก ล่าสุดมีสมาชิกพันทิปได้นำ Note 5 เข้าศูนย์จากปัญหาในกรณีนี้แล้วพบว่าต้องเสียค่าซ่อม 1,400 บาท!
คุณเคซ่าได้ตอบกระทู้ “ถ้า Note 5 ปากกาติดเพราะใส่ผิดด้านเข้าศูนย์ซ่อมจะเสียเงินไหมครับ” ในความเห็นที่ 6 ถึงค่าซ่อม Galaxy Note 5 จากกรณีเสียบปากกาผิดด้าน โดยนำส่งศูนย์ที่สยาม สรุปมีค่าใช้จ่ายดังนี้
- ค่าเปิดเครื่อง 450 บาท
- ค่าปากกาใหม่ 900 บาท
- รวม VAT แล้วสรุปค่าซ่อมที่ 1,400 บาท
- ไม่รวมกรณีชิ้นส่วนในเครื่องเสียหายเพราะดึงปากกาแรง อาจต้องเสียมากกว่า 2,000 บาท
ถึงแม้ว่าเรื่องนี้อาจเกิดจากความผิดพลาดของผู้ใช้ แต่ถ้าคิดอีกแง่หนึ่ง Samsung ก็ควรออกแบบให้รอบคอบกว่านี้ เพราะแม้ผู้ใช้จะมีสติ ใส่ปากกาถูกต้องเสมอ แต่เมื่อ Note 5 ไปอยู่ในมือของคนอื่นเช่น เด็ก เพื่อน มันก็มีสิทธิ์เกิดปัญหาได้อยู่ดี เพราะไม่ใช่เจ้าของเครื่อง อาจจะรู้ว่ามีปัญหาร้ายแรงแบบนี้ก็ได้ ซึ่งถ้าค่าซ่อมยังแพงเหยียบพันโดยที่ซัมซุงไม่หามาตรการแก้ไข ผู้ใช้ Note 5 ทั่วโลกเตรียมจิตตกได้เลย ใครหยิบเครื่องไปใช้ก็ต้องระวังระแวง (สุดท้ายก็ซื้อรุ่นอื่นที่ไม่มีปัญหาสบายใจกว่านะ)
แล้วทำไมเสียบปากกากลับข้างถึงเอาไม่ออกเลย เรามาดูภาพภายในกันดีกว่าครับ

ภายใน Note 5 จะเห็นตรงวงกลมแดงๆ ที่เป็นกลไกล็อกปากกา ซึ่งเมื่อเจอกับจุกปากกาที่ยื่นออกได้ของ S-Pen รุ่นใหม่ ก็ถือว่าเป็นล็อกตายทันที

ภายในช่องเก็บปากกาของ Note 5 ยังมีเซนเซอร์เล็กๆ เพื่อบอกว่าตอนนี้ปากกาอยู่ในเครื่องหรือถอดออกมาใช้ ซึ่งถ้าดึงออกมาโดยใช้แรง เซนเซอร์เล็กๆ ตัวนี้ก็จะหักไปแบบรูปด้านซ้าย ทำให้เครื่องตรวจจับปากกาไม่ได้อีกต่อไป
ที่มาภาพ: 9to5Google