มาแล้วจ้า 100 อันดับแบรนด์ดังระดับโลกที่เชื่อว่าแทบทุกคนจะต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี แน่นอนว่าอันดับ 1 คุณคงเดากันได้ไม่ยากว่าเป็นของใครครับ ซึ่งปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจหลายแบรนด์เลยทีเดียว เรามารับชมกันดีกว่าครับว่าใครบ้างที่น่าสนใจ 🙂
อันดับ 1 และ 2 ยังคงเหมือนกับปีที่แล้วซึ่งเป็นในฝั่งของ IT คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Apple ที่มีมูลค่าสูงถึง 170,276 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มจากปีที่แล้วถึง 43% เลยทีเดียว (สมเป็นบริษัทที่มีสาวกมากเป็นอันดับ 1 ในโลกจริง ๆ ครับ) อันดับถัดมาเป็นของ Google ที่โตขึ้น 12% มีมูลค่า 120,314 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยทั้ง 2 บริษัทนี้เติบโตฉีกคู่แข่งเจ้าอื่นไปแบบขาดลอยมาก ๆ
ถัดมาเป็นของบริษัทขายน้ำดำ Coca Cola ที่เราคุ้นเคยเช่นกัน ซึ่งปีนี้มูลค่าลดลง 4% อยู่ที่ 78,423 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับถัดมาคือบริษัทที่กำลังมาแรงในขณะนี้ด้วยการเปิดตัว Windows 10 และ Office 2016 ไป นั่นคือ Microsoft ที่เติบโตกว่าเดิม 11% ขึ้นมาอยู่ที่ 67,670 ล้านเหรียญสหรัฐ แซง IBM ที่มูลค่าตกลงถึง 10% ด้วยกัน และตามมาด้วยโตโยต้าที่เติบโตขึ้น 16% ตามมาด้วย SAMSUNG ที่เดินทางสายกลาง เติบโตเท่าเดิมคือ 0% นั่นเองครับ (สงสัยปากกา Note 5 จะทำพิษ) ต่อมาคือบริษัท General Electric ที่เติบโตลดลง 7% เช่นเดียวกับแม็คโดนัลที่ลดลง 6% ครับ
และในปีนี้มีบริษัทที่เติบโตโดดเด่นขึ้นมาจากปีที่แล้วก็มีมากมายเช่นกัน โดยสามารุสังเกตุจากป้ายแดง ๆ มุมขวาล่างนั่นเอง โดยบริษัทแรกที่เติบโตขึ้นมาคือ Amazon ร้านขายของ Online ชั้นนำของโลกที่โตขึ้นมาถึง 29% มีมูลค่ารวม 37,948 ล้านเหรียญสหรัฐ และตามมาด้วยทาง Facebook โดย Mark Zuckerberg ก็โดดเด่นมาก ๆ เช่นกันเพราะเขาสามารถเติบโตกว่าปีที่แล้วได้เกิน 50% เลยทีเดียว (โตขึ้นมา 54%) โดย ณ ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ารวมแล้วถึง 22,029 ล้านเหรียญสหรัฐ ถัดมาก็เป็นบริษัททำกระเป๋าแบรนด์อันดับโลกอย่าง Hermes Paris ที่เติบโตขึ้นมาถึง 22% และบริษัทผลิตรถยนต์ Nissan ที่เติบโตถึง 19%
ต่อมาเป็นบริษัท 3M ที่คุณคุ้นเคยกับอุปกรณ์ทำความสะอาดภายในบ้านที่เติบโตกว่าเดิมถึง 17% (ซึ่งการเติบโตครั้งนี้อาจจะมาจากเพจ “พ่อบ้านใจกล้า” ก็เป็นได้…) ต่อด้วยร้านกาแฟชื่อดังอย่าง Starbucks และ Adobe ผู้สร้างซอฟแวร์สำหรับนักถ่ายภาพและกราฟิคดีไซน์เนอร์ ที่เติบโตเคียงคู่กันที่ 16% และ 17% ต่อด้วยบริษัทที่นักช็อปต้องรู้จักอย่าง MasterCard ที่เติบโตขึ้นกว่า 17% และบริษัทสุดท้ายที่เติบโตขึ้นคือบริษัทสาย Logistic ชื่อดังอย่าง FedEx ที่เติบโตขึ้น 16% (ซึ่งอาจจะเกิดจากประเทศไทยใช้บริการเยอะขึ้นก็เป็นได้ อิอิ) และ Huawei ที่เติบโตขึ้นถึง 15% เลยทีเดียวครับ
โดยปีนี้มี 4 อันดับสุดท้ายที่ติดขึ้นมาใหม่คือ PayPal, Mini, Moët & Chandon และ Lenovo ส่วนสาวก Nintendo ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ เพราะเขาได้ตกจาก 100 อันดับลงไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย..
ที่มา: interbrand