17 พฤศจิกายน 2558 – 3 ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ “AIS – Dtac – Truemove H” (เอไอเอส –ดีแทค – ทรูมูฟ เอช) ผนึกกำลังเชื่อมต่อระบบกระเป๋าเงินออนไลน์บนมือถือ E – Wallet (อี-วอลเลท) สร้างมิติใหม่เขย่าวงการ อี-มันนี่ เมืองไทย ครั้งแรกกับการเปิดให้บริการโอนเงินข้ามแอปพลิเคชั่นกระเป๋าเงินออนไลน์ ระหว่าง AIS mPAY, Jaew Wallet และ Wallet by TrueMoney ได้โดยไม่จำกัดค่าย เพียงแค่รู้เบอร์มือถือเท่านั้น มอบความสะดวกสบายให้ลูกค้าโอนเงินและใช้จ่ายค่าสินค้าและบริการต่างๆ ได้เพียงปลายนิ้ว ทุกที่ทุกเวลา เกาะกระแสอี-คอมเมิร์ชและโมบาย คอมเมิร์ช ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยร่วมมือกับ มาสเตอร์การ์ด และ ธนาคารธนชาต เพื่อปลดล็อคข้อจำกัดในการโอนเงินผ่านกระเป๋าเงินออนไลน์ (E-Wallet) มาร่วมเป็นพันธมิตรสำคัญที่ให้การสนับสนุนด้านความปลอดภัยด้วยมาตรฐานระดับสากลที่ลูกค้ามั่นใจได้
บุคคลในภาพ (จากซ้ายไปขวา) 1. คุณแอนโทนิโอ คอร์โร ผู้จัดการประจำประเทศไทยและพม่า มาสเตอร์การ์ด 2. คุณสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท กรรมการผู้จัดการ บริษัทแอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด 3. คุณปานเทพย์ นิลสินธพ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานผลิตภัณฑ์บริการทางการเงิน บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค 4. คุณวิษณุ ศรีเจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด 5. คุณสมหวัง เหลืองไพบูลย์ศรี เลขาชมรมผู้ประกอบการ e-Payment & e-Money และผู้จัดการทั่วไป บริษัท เพย์สบาย จำกัด 6. คุณปริญญา จินันทุยา ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจการชำระเงินและร้านค้ารับบัตรธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
วิธีการก็ทำตามในคลิปวิดิโอเลยจ้า ง่ายๆแค่ปลายนิ้วสัมผัสจริงๆ
ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการทำงานร่วมกันในกลุ่มผู้ให้บริการอี-มันนี่ เพื่อกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม ยกระดับอี-วอลเลทในประเทศไทยให้เกิดการใช้งานที่แพร่หลายมากขึ้น หวังสร้างให้เกิด Cashless Society ตลอดจนตอบสนองนโยบายเศรฐกิจดิจิทัลของประเทศอย่างแท้จริง
ความร่วมมือของยักษ์ใหญ่ทั้งสามค่ายเป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทยยุคใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้น
ทั้งนี้ ผลสำรวจการใช้จ่ายผ่านทางโทรศัพท์มือถือที่จัดทำโดยมาสเตอร์การ์ด พบว่า คนไทย 58.8% เคยใช้จ่ายผ่านโทรศัพท์มือถืออย่างน้อยหนึ่งครั้งในปี 2557 ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของเทรนด์ทั่วโลกที่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ หรือโมบาย คอมเมิร์ซ ทำให้ระบบการชำระเงินพัฒนาไปอย่างมาก
ทำให้ผู้บริโภคได้ใช้ระบบการชำระเงินแบบใหม่ๆ เป็นที่คาดการณ์ว่า สัดส่วนการชำระเงินผ่านทางเลือกใหม่ๆ เช่น E – Wallet (อี-วอลเลท) การโอนเงินแบบเรียลไทม์ หรือทางโทรศัพท์มือถือจะเพิ่มขึ้นทั่วโลกจาก 43% ในปี 2012 เป็น 59% ในปี 2017